Tamdoo.com

ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว บันเทิง

เที่ยวทะเล

  • Home
  • สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์

หาดบ่อนอก ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อนอก หาดทรายขาวมีความยาว ๗ กิโลเมตร น้ำทะเลสะอาด บริเวณชายหาดน้ำไม่ลึก สามารถลงเล่นน้ำได้ มีถนนเลียบขนานไปกับชายหาด ตลอดแนวชายหาดเป็นสวนมะพร้าวและฟาร์มเพาะพันธุ์ลูกกุ้ง ตามแนวชายหาดมีเรือและเพิงพักชาวประมงพื้นบ้านอยู่เป็นระยะ นับเป็นบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาเหมาะสำหรับผู้ชอบเดินชมชายหาด โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นจากท้องทะเลตอนเช้าจะมีความงดงามมากกว่าช่วงอื่นๆ นอกจากนี้ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม บริเวณหาดบ่อนอกมักมีปลาวาฬลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ ให้เห็นบ่อยครั้ง ครั้งละประมาณ ๓ ชั่วโมง ซึ่งหากมองจากฝั่งต้องใช้กล้องส่องทางไกล หรือ จะเหมาเรือประมงของชาวบ้านออกไปชมใกล้ๆ ก็ได้ ปลาวาฬที่พบเป็นปลาวาฬพันธุ์บลูด้า ลำตัวสีดำกว้างประมาณ ๔ เมตร ยาว ๑๐-๑๒ เมตร…

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์

ค่ายธนะรัชต์ เป็นค่ายทหารที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ ๖๐๐,๐๐๐ ไร่เศษ ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ ๒๓๗ กิโลเมตร (ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ) ภายในค่าย ประกอบด้วย อนุสรณ์สถาน ฯพณฯจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็น สถานที่รวบรวมชีวประวัติ ผลงานในอดีต เครื่องแต่งกายของใช้ส่วนตัว เครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งของไทย และต่างประเทศของท่าน พิพิธภัณฑ์ ทหารราบ จัดแสดงอาวุธโบราณสมัยต่างๆ และ ท่าเสด็จ ตั้งอยู่ริม แม่น้ำปราณบุรี ทางทิศตะวันตกของค่ายฯ ห่างจากถนนเพชรเกษม ประมาณ…

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

ตัวเมืองหัวหิน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ ๑๙๕ กิโลเมตร และอยู่ก่อนถึงตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ประมาณ ๙๐ กิโลเมตร ตลาดหัวหินเป็นตลาดใหญ่มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และโรงแรมมากมาย การคมนาคมสะดวกมีบริการรถสามล้อ รถสองแถวรับจ้าง และรถเช่าไปยังสถานที่ต่างๆ ในตัวอำเภอและสถานที่ใกล้เคียง ตลาดฉัตร์ไชย เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของหัวหินเป็นที่ รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมในตัวเมืองหัวหิน ตลาดแห่งนี้สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ในคราวเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ วังไกลกังวลครั้งแรกพร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี โดยราชสกุลฉัตรไชย พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ…

เที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด

หมู่เกาะช้างเป็นเกาะที่มีทะเลล้อมรอบทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยบริเวณเกาะช้างเหมาะแก่การพักผ่อนคือไม่ร้อนจัด หรือหนาวจนเกินไป สำหรับอิทธิพลจากมรสุมนั้น เกาะช้างได้รับอิทธิพลทั้งจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จากอิทธิพลดังกล่าวทำให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทางด้วยเรือคือ ในช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ชายฝั่งด้านตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมจะมีคลื่นลมแรงไม่เหมาะสมที่จะเดินทางได้ ประมาณเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคมเป็นช่วงที่มีคลื่นน้อยที่สุด การเดินทางไปเกาะช้าง หรือหมู่เกาะต่างๆ จึงค่อนข้างที่จะสะดวก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง มีเนื้อที่ทั้งสิ้น ๖๕๐ ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ที่มากถึง ๕๒ เกาะ เรียงรายตั้งแต่เขตอำเภอแหลมงอบอำเภอ เมือง และอำเภอคลองใหญ่ เกาะที่สำคัญที่สุด คือ เกาะช้าง นอกจากนี้ยังมี เกาะอื่นๆ ที่ยังคงสภาพความสวยงามตามธรรมชาติ ได้แก่…

เที่ยวหาดต่างๆ และแหล่งท่องเที่ยวอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด

หาดทรายงาม เป็นหาดทรายขาวละเอียด มีความยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร ขนานไปกับทิวสนทะเล การเดินทาง ใช้ทางเข้าทางเดียวกับแหลมกลัด กิโลเมตรที่ ๓๗ และการเดินทางไปชายหาดจะต้องเดินข้ามสะพานไม้เล็กๆ ยาวประมาณ ๑๕ เมตร ถึงชายหาด หาดทรายเงิน บริเวณหาดเป็นป่าสน มีชายหาดที่ไม่กว้างมากนัก จึงไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ แต่เหมาะที่จะพักผ่อนเพื่อชมทิวทัศน์ หรือ ตกปลา จากหาดทรายเงินสามารถที่จะเดินเลียบหาดไปถึงหาดมุกแก้วได้ การเดินทาง หาดทรายเงิน อยู่กิโลเมตรที่ ๔๑ ที่อยู่ถัดจากหาดทรายงาม หาดมุกแก้ว และ…

พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ สวนนงนุช ที่เที่ยวอำเภอสัตหีบ ชลบุรี

โรงละครไทย “อลังการ” ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท กิโลเมตรที่ ๑๕๕ เป็นสถานที่ที่รวบรวมศิลปะการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ โรงละคร ประกอบด้วย กำแพงแก้ว หอระฆังมงคล ภัตตาคาร “อลังการ” ภายในตกแต่งด้วยศิลปะสมัยใหม่บริการอาหารไทยและนานาชาติ และลำนวัฒนธรรมและร้ำนขำยของที่ระลึก เป็นพื้นที่แสดงการละเล่นแบบไทย ๆ รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์ฝีมือภูมิปัญญาชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมี ทะเลสาบ “อลังการ” ที่ประกอบด้วยวิถีชีวิตแบบไทย ๆ มีตลาดน้ำให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายซื้อหาผลไม้และขนมไทย โรงละคร “อลังการ” เปิดทุกวัน…

เที่ยวทะเลบางแสน ตลาดเก่าอ่างศิลา แหล่งท่องเที่ยวอำเภอเมืองชลบุรี

วัดเขาบางทราย ตั้งอยู่ที่ตำบลบางทราย บนถนนสุขุมวิทด้านซ้ายมือก่อนจะถึงตัวเมืองชลบุรีเล็กน้อย เดิมมีวัดโบราณสมัยอยุธยาอยู่เชิงเขาแต่ผุพังไปหมดแล้ว ต่อมาพระยาพิชิตชลเขตผู้กำกับราชการเมืองชลบุรีได้สร้างวัดเขาบางทรายขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ ๕ วัดนี้มีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท นักท่องเที่ยวสามารถนำรถยนต์ผ่านขึ้นไปทางโรงเรียนสุขบท และสามารถชมวิวทิวทัศน์ของหาดบางแสนได้ และตึกหลังเล็กภายในมีพระพุทธไสยาสน์ตั้งอยู่บนยอดเขา บริเวณที่ตั้งอยู่บนเชิงเขามีสิ่งก่อสร้างที่เป็นนทรงยุโรปสมัยรัชกาลที่ ๕ อยู่หลายหลัง ในช่วงวันสิ้นเดือน ๔ จนถึง วันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๕ มีประเพณีเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธบาทบางทราย และมีงานประเพณีตักบาตรเทโวเทศกาลออกพรรษาด้วย วัดใหญ่อินทราราม ตั้งอยู่บนถนนเจตน์จำนงค์ในตัวเมืองชลบุรี มีสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย คือ พระอุโบสถฐานโค้งแอ่นท้องสำเภา มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม เหนือขอบหน้าต่างเป็นภาพเทพชุมนุม…

ย้อนอดีตสู่เส้นทางวิถีชุมชน บ้านมะเดื่อหวาน บ้านในสวน เกาะพะงัน

จากอ่าวโฉลกหลำจะมีถนนเส้นหนึ่งซึ่งตัดผ่านบริเวณช่องเขาแคบๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่สูงชันนัก ระหว่างแนวของเขาหราที่อยู่ตอนกลางสุดของเกาะและเขาตาหลวงซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางที่ลัดเลาะไปในช่องเขาลดหลั่นลงไปทางด้านทิศใต้สู่แนวที่ราบทางด้านท้องศาลาอีกครั้ง ตลอดเส้นทางสายนี้ยาวประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นพื้นที่สีเขียวของป่าไม้อุดมสมบูรณ์สลับกับสวนยางพาราและเรือกสวนไร่นานับเป็นเส้นทางที่สวยงามเส้นหนึ่ง มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งซึ่งใครเที่ยวเลาะชายหาดตะวันตกมาจนถึงโฉลกหลำก็สามารถเดินทางกลับเป็นเส้นทางวงรอบกลับไปยังท้องศาลาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับทางเดิมและยังได้ท่องเที่ยวไปในโลกสีเขียวของเกาะพะงันอีกด้วย จุดแรกที่ควรแวะเที่ยวคือ ศาลเจ้าแม่กวนอิมและวัดป่าแสงธรรม ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ศาลเจ้าแม่กวนอิม อยู่ห่างจากบ้านโฉลกหลำราว 6 กิโลเมตร รูปแบบเป็นศาลเจ้าจีนที่สวยงามตั้งอยู่บนไหล่เขาช่วงหนึ่งของเขาตาหลวงที่มียอดสูงสุด 478 เมตรจากระดับน้ำทะเลอยู่ด้านตรงข้ามกับเขาหรา บริเวณศาลเจ้าอยู่บนเนินสูงที่เป็นจุดชมวิวสามารถมองเห็นอ่าวโฉลกหลำาที่อยู่ทางด้านทิศเหนือได้เป็นอย่างดี ตามประวัติเล่าขานกันมาสั้นๆ ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีศรัทธาแรงกล้าต่อองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมชื่อคุณมลาวรรณ ได้เดินทางไปทอดผ้าป่าที่เกาะพะงันแล้วไปที่บ้านโฉลกหลำซึ่งเป็นชุมชนคนจีนไหหลำที่มีอาชีพทำาประมงมาแต่เก่าก่อนจึงเกิดศรัทธาขึ้นว่าจะต้องสร้างศาลเจ้าแม่กวนอิมนี้ขึ้นเพื่อบูชาและเป็นจุดหมายในการเดินเรือคล้ายกับเป็นประภาคารส่องแสงในยามค่ำคืนให้คนเรือได้มองเห็นเป็นจุดหมายในการเดินเรือได้ด้วย ซึ่งได้มาเจอสถานที่แห่งนี้เหมาะกับความฝันของเธอ จึงได้กลับไปกรุงเทพฯ แล้วรวบรวมเงินมาสร้างศาลเจ้าแม่กวนอิมนี้ขึ้น และสามารถสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2536ภายในบริเวณศาลเจ้า มีศาลาชมวิวอยู่แห่งหนึ่งสร้างเป็นเก๋งจีนสามหลังติดต่อกัน…

งามวิถีชีวิตชุมชน หาดโฉลกหลำ งามล้ำ หินสวย หาดหินงาม เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

บริเวณด้านทิศเหนือสุดของเกาะพะงัน นั่นคือ หาดโฉลกหลำ ชายหาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมราวกับวงพระจันทร์ความยาวของหาดราว 3.5 กิโลเมตร ที่นี่เป็นชุมชนชาวประมงซึ่งมีวิถีชีวิตความเป็นมาเก่าแก่คู่กับเกาะพะงันมาเนิ่นนาน กล่าวกันว่าชื่อ โฉลกหลำ นี้มาจากชาวมลายูคนแรกที่มาอาศัยอยู่ที่อ่าวนี้ชื่อว่า โดล่ะ ดะหลำ แล้วภายหลังเรียกเพี้ยนเป็น โฉลกหลำ นั่นเป็นนัยหนึ่ง ส่วนคำว่า โฉลก นั้นสันนิษฐานอีกนัยหนึ่งว่า น่าจะมีส่วนมาจากการที่เมืองไชยามีชื่อตำแหน่ง ขุนยกกระบัตร หัวเมืองโฉลกในสมัยนั้นซึ่งชื่อบ้านหลายแห่งในเกาะพะงันก็มีชื่อนำหน้าว่าโฉลก อาจจะมีส่วนมาจากชื่อตำแหน่งนี้ก็เป็นได้ เพราะเกาะพะงันเคยขึ้นอยู่กับเมืองไชยามาก่อน หรือประการสุดท้ายที่เป็นข้อสันนิษฐานของผู้เขียนเองว่า การที่ชุมชนชาวจีนมาอาศัยอยู่บนเกาะพะงันพยายามออกเสียงคำว่า ลูกบ้านว่า โละบั่น เช่นลูกบ้านเก่าเรียกว่า โละบั่นเก๋า คำว่าโละนี้ก็อาจพ้องกับคำว่า…

งามมหัศจรรย์ทะเลแหวกเกาะพะงัน ที่แม่หาด เกาะม้า จังหวัดสุราษฏร์ธานี

กระบี่นั้นมีทะเลแหวกที่ขึ้นชื่อติดอันดับว่าเป็น Unseen Thailand ซึ่งใครๆ ก็รู้จักกันดี แต่ใครบ้างจะรู้ว่าที่เกาะพะงันนั้นก็ยังมีทะเลแหวกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบๆ อีกแห่งหนึ่ง แม้จะไม่โด่งดังเท่ากับของจังหวัดกระบี่ และการกำเนิดอาจจะแตกต่างกัน แต่ก็ยังพอเรียกได้ว่าเป็นทะเลแหวกอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งอยู่ที่บริเวณแม่หาดปรากฏเป็นสันทรายเชื่อมต่อไปยังเกาะม้าที่อยู่ห่างไปราว 350 เมตร ปกติทะเลแหวกแห่งนี้จะเป็นสันทรายที่ปรากฏตัวอยู่ตลอดเกือบทั้งปี ไม่เหมือนกับ ทะเลแหวกของกระบี่ที่ เกิดด้วยอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลงโดยเฉพาะในช่วง 15 ค่ำวันน้ำใหญ่ที่น้ำขึ้นมากลงมาก ทะเลแหวกที่เกาะม้า นี้มีกำเนิดมาจากอิทธิพลของลมพัทธยาที่พัดเข้าสู่เกาะพะงันด้านตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี แล้วพัดเอาทรายมากองรวมกันเกิดเป็นสันทรายทอดยาวจากหาดแม่หาดสู่เกาะม้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ สันทรายนี้อาจจะเกิดขึ้นสวยงามหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่นลมในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดอยู่ในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าลมว่าวนั่นเอง กล่าวคือ เมื่อมีลมว่าวเกิดขึ้นคลื่นลมจากลมว่าวจะพัดพาสันทรายที่ลมพัทธยาพัดพามาให้ต่ำลงและพากลับไปอีกด้านหนึ่งซึ่งถ้าคลื่นมรสุมไม่แรงมากสันทรายก็จะยังคงสวยงามอยู่ได้ อย่างไรก็ดี ช่วงฤดูลมว่าวนี้ช่วงน้ำใหญ่สันทรายก็อาจจะขาดไปบ้างจากน้ำทะเลที่หนุนสูงยามน้ำขึ้น ครั้นเมื่อน้ำลงก็จะกลับโผล่ขึ้นมาอีก จนเมื่อหมดลมว่าวสันทรายนี้ก็จะอยู่ถาวรตลอดทั้งปีจนกว่าจะเวียนมาบรรจบกับฤดูมรสุมช่วงลมว่าวอีกครั้ง…