แม่น้ำเจ้าพระยา

ล่องเรือเที่ยวคลองอ้อมนนท์ จังหวัดนนทบุรี

ล่องเรือเที่ยวคลองอ้อมนนท์ จังหวัดนนทบุรี

ล่องเรือชมวัด เที่ยวสวนทุเรียนเมืองนนท์ คลองอ้อมนนท์นับเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่า ต่อเนื่องมาจากคลองบางกอกน้อย โปรแกรมเที่ยวคลองอ้อมนนท์จึงนิยมจัดเที่ยวควบคู่กับคลองบางกอกน้อย ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้จากกรุงเทพ หรือจะเลือกเที่ยวชมแต่คลองอ้อมนนท์เพียงแห่งเดียวก็ได้บริเวณท่าน้ำนนท์มีเรือให้บริการเช่นกัน ระหว่างทางมีวัดริมน้ำบรรยากาศดีๆ ให้ชมวิวไหว้พระทำบุญกันหลายแห่ง และยังมีสวนทุเรียนอันขึ้นชื่อของเมืองนนท์ให้แวะชิมกันด้วย สำหรับประวัติคลองอ้อมนนท์แต่เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เมื่องพระเจ้าปราสาททองโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา คลองลัดเกิดการขยายใหญ่ขึ้นกว่าเส้นทางเดิม จึงได้มีการแต่งตั้งให้คลองสายใหม่ได้ชื่อว่าแม่น้ำเจ้าพระยาแทน ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยาเดิมก็ได้ถูกเรียกชื่อเป็นคลองแทน โดยในส่วนของจังหวัดนนทบุรีก็ถูกปรับเปลี่ยนชื่อเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ คลองอ้อมนนท์ ปัจจุบันเป็นคลองแยกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณอำเภอเมืองนนทบุรี จากนั้นไหลผ่านเขตบางใหญ่จรดคลองบางกรวย และไหลออกมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยารวมระยะทางประมาณ 17.5 กิโลเมตร ในด้านการท่องเที่ยวคลองอ้อมนนท์ถือเป็นเส้นทางล่องเรือยอดนิยมอีกเส้นทางหนึ่ง เพราะแต่เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา คลองอ้อมนนท์จึงมีประวัติศาสตร์น่าสนใจ และยังเป็นคลองที่มีทิวทัศน์อันงดงามให้ชมตลอดสองฝั่งคลอง โดยเฉพาะวัดวาอารามริมน้ำมีให้ชมมากมายหลายแห่ง เช่น วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร วัดเสาธงหิน วัดศรีราษฏร์ วัดมะเดื่อ วัดประชารังสรรค์ วัดขวัญเมือง และวัดโตนด นอกจากนี้ระหว่างการล่องเรือยังสามารถแวะเที่ยวชมสวนทุเรียนในตำบลบางรักน้อยกันด้วย ซึ่งทุเรียนนนท์ถือเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของชาวนนทบุรีมาช้านาน ภายในศูนย์จึงมีผลิตภัณฑ์ทุเรียนแปรรูปให้เลือกซื้อเป็นของฝากกันหลายชนิด จากนันโปรแกรมเที่ยวคลองอ้อมนนท์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในเส้นทางนี้ยังสามารถล่องออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย จึงสามารถแวะไปเที่ยวเกาะเกร็ด และวัดไผ่ล้อมได้ไม่ยาก โดยหลังจากเที่ยวชมเสร็จเรือก็จะกลับมาส่งยังท่าน้ำนนท์เช่นเดิม เป็นอันจบโปรแกรมเที่ยวคลองอ้อมนนท์ ที่ตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี การเดินทาง การนั่งเรือเที่ยวคลองอ้อมนนท์สามารถเริ่มต้นได้จากคลองบางกอกน้อยในกรุงเทพ มีท่าเรือให้บริการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟบางกอกน้อย หรือจะเริ่มต้นจากท่าน้ำนนทบุรีก็ได้เช่นกัน มีเรือให้บริการทั้งเรือโดยสาร และเรือหางยาวให้เช่าเหมาแบบส่วนตัว …

ล่องเรือเที่ยวคลองอ้อมนนท์ จังหวัดนนทบุรี Read More »

ตลาดน้ำขวัญเรียม คลองแสนแสบ กรุงเทพ

ตลาดน้ำขวัญเรียม คลองแสนแสบ กรุงเทพ

เที่ยวตลาดน้ำขวัญเรียม รำลึกต้นกำเนิดนิยายดังแผลเก่า คนไทยส่วนใหญ่จะรู้จักคลองแสนแสบจากความเป็นลำคลองที่มีมลภาวะทางน้ำที่ไม่ดีนัก รวมถึงความเป็นเส้นทางของเรือโดยสารที่มีความสะดวกรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงด้านบวกของคลองแสนแสบก็มีให้สัมผัสเช่นกัน โดยคนรุ่นเก๋าต่างรู้กันดีว่าที่นี่คือจุดกำเนิดนิยายอมตะชื่อดังเรื่อง แผลเก่า ที่มีตัวเอกของเรื่องก็คือ ขวัญ กับ เรียม ปัจจุบันคลองแสนแสบจึงมีตลาดน้ำขวัญเรียม ให้คุณได้ย้อนวันวานสัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ของคลองแสนแสบ ท่ามกลางวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ และชิมอาหารจากร้านค้าต่างๆ กันอย่างเพลิดเพลิน ก่อนไปเดินชมคลองช้อปปิ้งกินอาหารอร่อยลองมาทำความรู้จักกับประวัติของคลองแสนแสบกันก่อนดีกว่า โดยคลองแสนแสบถูกขุดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ปี พ.ศ. 2380 เพื่อเชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำบางปะกงไว้ด้วยกัน โดยวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งอาวุธ เสบียงอาหารไปยังเวียดนาม ในช่วงสงครามไทย-ญวน ที่ใช้เวลาในการรบกันกว่า 14 ปี ส่วนปัจจุบันคลองแสนแสบนับเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำสายสำคัญแห่งหนึ่งของคนกรุงที่มีวิถีชีวิตเร่งรีบ สำหรับชื่อแสนแสบว่ากันว่ามี่มาถึง 3 แหล่ง คือ 1 จากความเป็นลำคลองที่มียุงชุกชุม 2 เพี้ยนมาจากคำว่า แสสาบในภาษาเขมร และ 3 เพี้ยนมาจากคำว่า เซนเญป ในภาษามลายู สำหรับตลาดน้ำขวัญเรียมตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบระหว่างซอยเสรีไทย 60 และซอยรามคำแหง 187 โดยมีสะพานเรือเชื่อมต่อกันระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือ และวัดบางเพ็งใต้ ชื่อตลาดน้ำขวัญเรียมก็นำมาจากตัวเอกของนิยายชื่อดังแผลเก่าของคลองแสนแสบ ภายในตลาดน้ำจึงมีบรรยากาศแบบดั้งเดิมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายของความเป็นบ้านทุ่งและวิถีชีวิตริมน้ำกันหลายจุด โดยตลอดการเดินเที่ยวชมตลาดน้ำจะมีร้านค้า ร้านอาหาร …

ตลาดน้ำขวัญเรียม คลองแสนแสบ กรุงเทพ Read More »

เที่ยวคลองชักพระ ตลาดน้ำตลิ่งชัน กรุงเทพ

เที่ยวคลองชักพระ ตลาดน้ำตลิ่งชัน กรุงเทพ

เที่ยวตลาดน้ำตลิ่งชัน แถมล่องเรือชมวัดชมสวน คลองชักพระในอดีตถือเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่าเช่นเดียวกันกับคลองบางกอกน้อย และคลองบางกอกใหญ่ โดยไหลแยกมาจากคลองบางกอกน้อย ส่วนในปัจจุบันคนกรุงส่วนใหญ่จะรู้จักกันดีว่าเป็นที่ตั้งของตลาดน้ำตลิ่งชัน สถานที่ท่องเที่ยวช้อปชิมชิวยอดนิยมของคนฝั่งธน ซึ่งหลังจากเดินเที่ยวชิมอาหาร และผลไม้อร่อยๆ ในตลาดกันแล้ว หากอยากล่องเรือชมบรรยากาศสองฝั่งคลอง ชมวัดวาอาราม และสวนกล้วยไม้ ภายในตลาดยังมีเรือนำเที่ยวให้บริการด้วย คลองชักพระ หรือ คลองบางขุนศรี ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา แต่หลังจากมีการขุดคลองลัดใหม่ คลองชักพระหรือเจ้าพระยาสายเก่าที่มีขนาดแคบกว่าก็ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นคลองแทน ส่วนคลองสายใหม่ที่มีความกว้างกว่าจึงได้ชื่อว่าแม่น้ำเจ้าพระยาจวบจนปัจจุบัน สำหรับคลองชักพระจะไหลแยกมาจากคลองบางกอกน้อยบริเวณวัดสุวรรณคีรี ไปต่อกับคลองมอญ ตัดกับคลองบางกอกใหญ่ โดยลำคลองกว้างประมาณ 10 เมตร ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร และยังเป็นแนวแบ่งเขตบางกอกน้อยกับเขตตลิ่งชันด้วย ส่วนชื่อคลองชักพระก็มีที่มาจากงานประเพณีชักพระของวัดนางชี โดยจะจัดซึ้นในทุกวันแรม 2 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี สำหรับในด้านการท่องเที่ยวคลองชักพระเป็นที่ตั้งของตลาดน้ำตลิ่งชัน นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนฝั่งธนมาช้านาน ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายผลไม้ จำหน่ายอยู่ตลอดสองฝั่งคลอง ซึ่งสินค้าประเภทผักผลไม้ก็นำมาจากสวนจากไร่ในท้องถิ่นจึงมั่นใจได้ถึงความสดอร่อย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อเลือกชิมได้ทั้งจากร้านแผงลอย และเรือแจวที่พายขายกันตลอดวัน ส่วนบริเวณโป๊ะริมน้ำยังมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย ขนมไทย ไอศกรีม และผลไม้ให้นั่งรับประทานอาหารชมวิวคลองกันด้วย และหลังจากเดินช้อปชิมอาหารอร่อยกันแล้ว หากอยากสัมผัสคลองชักพระอย่างใกล้ชิดกว่านี้ บริเวณตลาดน้ำยังมีเรือหางยาวนำเที่ยวคลองชักพระกันด้วย …

เที่ยวคลองชักพระ ตลาดน้ำตลิ่งชัน กรุงเทพ Read More »

เที่ยวคลองบางหลวง กรุงเทพ

เที่ยวคลองบางหลวง กรุงเทพ

เสน่ห์บางหลวง ชมบ้านเก่า และงานศิลป์ หากเอ่ยถึงชื่อคลองบางกอกน้อยก็ต้องนึกถึงคลองบางกอกใหญ่เป็นอันดับต่อมา เพราะคลองสองสายนี้นอกจากซื่อจะคล้ายกันแล้ว ทั้งสองคลองยังมีประวัติเหมือนกันด้วย โดยในอดีตคลองบางกอกใหญ่ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่าเช่นกัน แต่ต่อมาหลังจากแม่น้ำเจ้าพระยาเปลี่ยนสาย คลองบางกอกใหญ่ก็ได้กลายมาเป็นชุมชนของข้าหลวง และชาวจีนในสมัยกรุงธนบุรี คลองแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คลองบางหลวง ปัจจุบันคลองบางหลวงก็ยังคงเป็นชุมชนริมน้ำที่มีเสน่ห์เหมือนวันวานซึ่งเหมาะสำหรับการมาเดินเที่ยวชมบ้านเรือนเก่า และชมงานศิลป์เก๋ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันสุนทรีย์ คลองบางกอกใหญ่ หรือ คลองบางหลวง เป็นคลองที่มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงโปรดเกล้าให้ขุดคลองลัดเพื่อย่นระยะเวลาในการสัญจรทางน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขายกับชาวตะวันตก แต่ต่อมาคลองลัดสายใหม่ได้เริ่มกว้างใหญ่ขึ้นกว่าแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ได้มีการเรียกชื่อแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมมาเป็นคลองบางกอกน้อย และคลองบางกอกใหญ่ ส่วนคลองลัดใหม่ได้แต่งตั้งเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาแทน โดยบริเวณคลองบางกอกใหญ่ต่อมาสมัยธนบุรีได้กลายมาเป็นชุมชนของข้าหลวง หรือขุนนางผู้ใหญ่ของทางราชการ ชาวบ้านจึงนิยมเรียกชุมชนริมคลองแห่งนี้กันว่าคลองบางข้าหลวง หรือคลองบางหลวงจวบจนปัจจุบัน ปัจจุบันชุมชนริมคลองบางหลวงก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของบ้านเรือนริมน้ำ ผู้คนทั่วไปสามารถเข้ามาเดินเที่ยวชมบ้านเรือนเก่าแก่ และบรรยากาศคลองบางหลวงได้ตลอดสองฝั่งคลอง โดยในชุมชนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ให้แวะชมกันอีกหลายแห่งด้วย เช่น บ้านศิลปิน ร้านหนังสือปิ่นโต บ้าน ศ. จิตกร ร้านบ้านของเล่น รวมถึงร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ก็มีให้บริการเช่นกัน มาเดินเที่ยวชมคลองบางหลวงจึงไม่ได้มีแต่วิวสวยๆ ให้สัมผัสเท่านันแต่ยังมีงานศิลป์สวยๆ ให้เลือกชมเลือกซื้อเป็นของฝากกลับบ้านกันด้วย ที่ตั้ง ซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 เขตบางกอกใหญ่ จังหวัดกรุงเทพ …

เที่ยวคลองบางหลวง กรุงเทพ Read More »

เที่ยวคลองบางกอกน้อย กรุงเทพ

เที่ยวคลองบางกอกน้อย กรุงเทพ

ล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่า แต่เดิมคลองบางกอกน้อยนับเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา แต่หลังจากคลองสายใหม่ถูกขุดขึ้นเพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินเรือไปสู่คลองบางกอกใหญ่ แม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมแห่งนี้จึงได้ถูกตั้งชื่อใหม่เป็นคลองบางกอกน้อย ซึ่งความสำคัญของคลองเล็กๆ แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงการช่วยย่นระยะทางเท่านั้น แต่ตลอดสองฝั่งคลองแห่งนี้ยังเป็นชุมชนริมน้ำเก่าแก่ที่มีความสำคัญของชาวฝั่งธนบุรีมาอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน คลองบางกอกน้อยจึงเหมาะสำหรับการล่องเรือหางยาวชมวิวบ้านเรือนริมน้ำ และเที่ยวชมวัดเก่าแก่ของเมืองกรุง สำหรับประวัติของคลองบางกอกน้อยถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2065 สมเด็จพระไชยราชาธิราชแห่งกรุงศรีอยุธยาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองลัดบางกอกใหญ่ตรงส่วนที่แคบที่สุด ซึ่งก็คือบริเวณปากคลองบางกอกน้อยไปจนถึงปากคลองบางกอกใหญ่ เพื่อร่นระยะทางเดินทางสัญจนทางน้ำ แต่ต่อมากระแสน้ำจากคลองสายใหม่ได้เกิดการขยายจนกว้างใหญ่ จึงได้ชื่อเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายใหม่แทน ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมที่มีความแคบจึงได้ชื่อว่าเป็นคลองบางกอกน้อยแทนจวบจนถึงปัจจุบัน ในวันนี้ตลอดสองฝั่งคลองบางกอกน้อยจึงยังคงเป็นชุมชนที่มีบ้านเรือน และวัดวาอารามสำคัญต่างๆ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา คลองบางกอกน้อยจึงได้ชื่อว่าเป็นสายน้ำที่ยังมีลมหายใจของชาวฝั่งะน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คนกรุงหลายคนจึงนิยมมานั่งเรือหางยาวเที่ยวกัน เพราะนอกจากการชมวิวคลองอันแสนสงบ และบ้านเรือนริมน้ำเก่าแก่แล้ว ระหว่างทางยังผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกหลายแก่งด้วย เช่น พิพิธภัณฑ์อู่เรือราชพิธี หอนาฬิกาสถานีรถไฟบางกอกน้อย วัดสุวรรณาราม วัดศรีสุดาราม วัดชะลอ วัดโพธิ์บางโอ วัดบางอ้อยช้าง ฯลฯ โดยเส้นทางล่องเรือเที่ยวคลองบางกอกน้อยจะใช้เลวาเที่ยวชมประมาณ 1-2 ชั่วโมง เท่านั้น แต่หากได้โปรแกรมเที่ยวนานกว่านี้ คลองบางกอกน้อยยังเชื่อมต่อไปยังลำคลองอื่นๆ อีกหลายสาย เช่น คลองชักพระ คลองบางหลวง รวมถึงแม่น้ำเจ้าพระยา จากคลองบางกอกน้อยจึงสามารถนั่งเรือไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำได้อีกหลายแห่ง เช่น วัดพระแก้ว วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พระบรมมหาราชวัง ฯลฯ ที่ตั้ง เขตบางกอกน้อย …

เที่ยวคลองบางกอกน้อย กรุงเทพ Read More »

พระราชวังเดิม หรือ พระราชวังกรุงธนบุรี

พระราชวังเดิม และสถานที่ท่องเที่ยว เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพ

พระราชวังเดิม หรือ พระราชวังกรุงธนบุรี เป็นพระราชวังหลวงของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปัจจุบันตั้งอยู่ในกองบัญชาการกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ ในบริเวณซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของป้อมวิไชยเยนทร์ ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยสมัยนั้นกรุงเทพฯเป็นเมืองหน้าด่านชายทะเลที่สำคัญของกรุงศรีอยุธยา พระราชวังเดิมแห่งนี้สร้างในสมัยสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อพ.ศ. ๒๓๑๐ พร้อมกับการสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานีของไทย เพื่อเป็นที่ประทับและว่าราชการ พร้อมกับมีการปรับปรุงป้อมวิไชยเยนทร์เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นป้อมวิไชยประสิทธิ์ ตำแหน่งที่ตั้งของพระราชวังแห่งนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากมีป้อมปราการที่มั่นคงสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล อีกทั้งยังใกล้กับเส้นทางคมนาคมและเส้นทางการเดินทัพ พระราชวังเดิมนี้เคยเป็นสถานที่ที่พระมหากษัตริย์ไทย หลายพระองค์ทรงมีพระราชสมภพ เช่น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โบราณสถานที่ยังปรากฏอยู่ให้เห็นในพระราชวังเดิมได้แก่ ท้องพระโรง พระตำหนักเก๋งพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว อาคารตำหนักเก๋งคู่หลังใหญ่ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศาลศีรษะปลาวาฬ เรือนเขียวหรือ อาคารโรงพยาบาลเดิม ป้อมวิไชยประสิทธิ์ (กรุณาติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าชม เรียน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ อย่างน้อย ๑ สัปดาห์) เปิดวันจันทร์-ศุกร์ ปิดวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๕.๓๐ น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ๖๐ บาท เด็ก นักเรียน …

พระราชวังเดิม และสถานที่ท่องเที่ยว เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพ Read More »

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี

สถานที่ท่องเที่ยวเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย ตรงข้ามสถานีรถไฟธนบุรี เป็นอู่เก็บเรือที่ใช้ในพระราชพิธีต่างๆ ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์ เรือเหล่านี้เป็นเรือขุดทั้งสิ้น เรือพระราชพิธีที่เก็บอยู่ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงษ์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ และเรือพระที่นั่งอื่นๆ อีกหลายลำ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๗.๐๐ น. (ปิดช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่และวันหยุดสงกรานต์) อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ๑๐ บาท ชาวต่างชาติ ๓๐ บาท โทร. ๐ ๒๔๒๔ ๐๐๐๔ พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช ตั้งอยู่ที่ตึกอดุลยเดชวิกรม ชั้น ๒ ภายในโรงพยาบาลศิริราช ถนนพรานนก ฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นสถาบันผลิตแพทย์แห่งแรกของประเทศไทย ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์ (Congdon Anatomical Museum) ซึ่งจัดแสดงกายวิภาค การกำเนิดและตัวอ่อนของมนุษย์ โครงกระดูกมนุษย์ พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์สงกรานต์ นิยมเสน (Songkran Niyomsane Forensic Medicine Museum) ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม เครื่องมือชันสูตร วัตถุพยานสำคัญ …

สถานที่ท่องเที่ยวเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร Read More »

พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

ป้อมพระจุลจอมเกล้า หรือ ป้อมพระจุล ตั้งอยู่บริเวณริมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลแหลมฟ้าผ่า อยู่ห่างจากแยกพระสมุทรเจดีย์ ไปตามถนนสุขสวัสดิ์ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๐๓ ประมาณ ๗ กิโลเมตร หรือเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางปรับอากาศสาย ๒๐ ป้อมพระจุลฯ-ท่าดินแดง เป็นป้อมที่ทันสมัยและมีบทบาทสำคัญยิ่งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งเป็นที่ทำการยิงต่อสู้กับอริราชศัตรูมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖) เป็นป้อมที่จารึกอยู่ในความทรงจำของคนไทยและประวัติศาสตร์ชาติไทยมายาวนาน เพราะในสมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงเห็นว่า ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสกำลังแสวงหาเมืองขึ้น บรรดาประเทศต่างๆ ที่อยู่ติดเขตแดนไทย ก็ถูกประเทศทั้งสองเข้าครอบครองไปหมดแล้ว นับเป็นภัยใหญ่หลวงสำหรับประเทศเล็กๆ อย่างประเทศไทย พระองค์จึงทรงหาวิธีป้องกันต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันทางน้ำ ทรงดำริให้ปรับปรุงป้อมต่างๆ ทางปากน้ำ โดยจ้างชาวต่างประเทศที่ชำนาญการทหารเรือเป็นที่ปรึกษาวางแผนในการปรับปรุงกิจการทหารเรือในครั้งนั้นด้วย ภายในป้อมพระจุลจอมเกล้ามีสิ่งที่น่าสนใจคือ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้มีความสง่างามยิ่ง โดยทรงฉลองพระองค์ในชุดจอมทัพเรือ พระหัตถ์ถือกระบี่ นอกจากนี้ภูมิทัศน์โดยรอบยังแวดล้อมไปด้วยแมกไม้นานาชนิดดูร่มรื่น ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมาของป้อมพระจุลจอมเกล้า และเหตุการณ์ในสมัย ร.ศ. ๑๑๒ พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง เป็นเรือรบประจำการมีอายุการใช้งานนานที่สุดในกองทัพเรือเป็นเวลากว่า ๖๐ ปี จนกระทั่งกระทรวงกลาโหมได้พิจารณาเห็นว่ามีสภาพทรุดโทรมมากจึงปลดประจำการเพื่ออนุรักษ์เป็นพิพิธภัณฑ์ เรือหลวงรบแม่กลอง …

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ Read More »

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พระราชวังบางปะอิน อยู่ห่างจากเกาะเมืองมาทางทิศใต้ประมาณ ๑๘ กิโลเมตร ประวัติความเป็นมาตามพระราชพงศาวดารกล่าวว่า พระเจ้าปราสาททองเป็นผู้สร้างพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากบริเวณเกาะบางปะอินเป็นที่ประสูติของพระองค์และเป็นเคหสถานเดิมของพระมารดาซึ่งเป็นหญิงชาวบ้านที่สมเด็จพระเอกาทศรถทรงพบเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งแล้วเรือเกิดล่มตรงเกาะบางปะอิน พระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นบนเกาะบางปะอินบริเวณเคหสถานเดิมของพระมารดาในปีพ.ศ.๒๑๗๕ พระราชทานชื่อว่า “วัดชุมพลนิกายาราม” และให้ขุดสระน้ำสร้างพระราชนิเวศน์ขึ้นกลางเกาะเป็นที่สำหรับเสด็จประพาส แล้วสร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งที่ริมสระน้ำนั้นพระราชทานนามว่า พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ พระราชวังบางปะอินได้รับการบูรณะฟื้นฟูอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งสำหรับเป็นที่ประทับ มีเรือนแถวสำหรับฝ่ายในและมีพลับพลาริมน้ำ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่างๆขึ้น ดังที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนี้ ซึ่งยังคงใช้เป็นที่ประทับและต้อนรับพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงรับรองในโอกาสต่างๆเป็นครั้งคราว พระราชวังบางปะอินแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนคือ เขตพระราชฐานชั้นนอกและ เขตพระราชฐานชั้นใน เขตพระราชฐานชั้นนอกใช้เป็นที่สำหรับการออก มหาสมาคมและพระราชพิธีต่างๆ ส่วนเขตพระราชฐานชั้นในใช้เป็น ที่ประทับส่วนพระองค์ สิ่งที่น่าสนใจในเขตพระราชวังชั้นนอกของพระราชวังบางปะอินมีดังนี้ หอเหมมณเฑียรเทวราช เป็นปรางค์ศิลาจำลองแบบจากปรางค์ขอม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๓ เพื่อทรงอุทิศถวายแด่พระเจ้าปราสาททองกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระรูปฉลองพระองค์สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งปราสาทโถงทรงจตุรมุขอยู่กลาง สระน้ำ รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้สร้างเมื่อพ.ศ.๒๔๑๙ โดยจำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวังที่กรุงเทพฯและพระราชทานนาม “ไอศวรรย์ทิพยอาสน์” ตามพระที่นั่งองค์แรกซึ่งพระเจ้าปราสาททองโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เดิมพระที่นั่งสร้างด้วยไม้ทั้งองค์ ต่อมารัชกาล ที่ ๖ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนเสาและพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด …

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา Read More »

เที่ยวศูนย์ศิลปาชีพบางไทร รวมสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอบางไทร อยุธยา

วัดช้างใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างใหญ่ (อยู่ห่างจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทรประมาณ ๑ กิโลเมตร) เป็นวัดเก่าแก่สร้างก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า “วัดเสาธงหิน” เพราะมีเสาธงเก่าแก่ตั้งอยู่ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดช้างเฉย” และเปลี่ยนมาเป็น “วัดช้างใหญ่” เพราะเคยเป็นที่ตั้งของเพนียดคล้องช้าง เป็นที่ต่อช้างฝึกช้างป่า และเป็นที่อยู่ของช้างป่าจำนวนมาก วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปีพ.ศ.๒๓๖๐ ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระประธานเดิมชื่อว่า “หลวงพ่อทอง” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “หลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์” เชื่อกันว่า หลวงพ่อสามารถหยั่งถึงจิตใจของผู้ที่เข้าไปสักการะได้ โดยจะรู้ว่ามีความสุขหรือทุกข์โดยสังเกตจากสีหน้าของหลวงพ่อ (เป็น ความเชื่อส่วนบุคคล) ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร  ประวัติควำมเป็นมำ พระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ คือการเสด็จพระราชดำเนินตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทรงเยี่ยมราษฎรในทุกแห่งหน ทั่วทุกภาคของประเทศไทยพระราชกรณียกิจนี้ ได้ทรงปฏิบัติติดต่อกันมานานนับเป็นระยะเวลาหลายสิบปีแล้ว จึงทำให้ทรงเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของราษฎร ว่ามีความทุกข์สุขอย่างไร ที่ทรงเป็นห่วงมากก็คือ ความยากจนของราษฎร จึงทรงมีพระราชประสงค์จะจัดหาอาชีพให้ราษฎรทำ เพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้เพียงพอแก่การยังชีพ ในภาวะปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงสนพระทัยในงานฝีมือพื้นบ้านหรือศิลปกรรมพื้นบ้านที่จัดทำ ขึ้นโดยใช้วัสดุในท้องถิ่นมาก พระองค์จึงส่งเสริมในเรื่องนี้โดยการจัดให้มีครูออกไปฝึกสอนราษฎรเป็นการช่วยปรับปรุงคุณภาพของงานให้ดียิ่งขึ้น เมื่อราษฎรมีความชำนาญแล้วผลงานที่ผลิตออกมา ก็จะทรงรับซื้อไว้ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ซึ่งงานนี้ต่อมาได้ขยายออกเป็น มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฏาคม ๒๕๑๙ และได้ทรงจัดตั้งโรงฝึกอบรมศิลปาชีพขึ้นแห่งแรกที่ …

เที่ยวศูนย์ศิลปาชีพบางไทร รวมสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอบางไทร อยุธยา Read More »

Scroll to Top