Tamdoo.com

ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว บันเทิง

สถานที่ท่องเที่ยวภาคใต้

  • Home
  • งามเม็ดทราย นอนอาบแดดชายทะเล หาดยาว หาดสลัด เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

งามเม็ดทราย นอนอาบแดดชายทะเล หาดยาว หาดสลัด เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

ในบรรดาชายหาดริมฝั่งทะเลตะวันตกของเกาะพะงันทั้งหมด หาดยาวและหาดสลัดถือได้ว่า เป็นสองหาดที่มีเม็ดทรายขาวเนียนนุ่มและสวยงามมากกว่าหาดอื่นใด โดยเฉพาะหาดยาวนั้นเป็นชายหาดที่ยาวขนานไปกับชายฝั่งทะเลตะวันตกของเกาะพะงัน มีความยาวราว 1.5 กิโลเมตร ซึ่งมีรีสอร์ทใหญ่และบังกะโลขนาดเล็กเรียงรายอยู่ตลอดแนวชายหาดที่สามารถวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำาลังกาย เล่นกีฬาชายหาดหรือแม้แต่นอนอาบแดดได้เป็นอย่างดี ส่วนบริเวณด้านนอกของชายหาด ทั้งหมดเริ่มต้นจากหาดเจ้าเภา หาดสนจนถึงหาดยาว หาดสลัดไปจรดแม่หาดนี้จะเป็นแนวปะการังที่ทอดตัวยาวเหยียดติดต่อกันเป็นแนวเหนือใต้ มีจุดที่สามารถดำน้ำดูปะการังได้ดีอยู่หลายจุด ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมร้านดำน้ำและมีบริการพานักท่องเที่ยวออกไปดำน้ำตามแนวปะการังเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้หาดยาวยังเป็นจุดหนึ่งซึ่งสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุด ทุกเย็นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจึงมีนักท่องเที่ยวชอบมาคอยเฝ้าชมพระอาทิตย์ตกอยู่ตามชายหาดอยู่เสมอ ส่วนหาดสลัด เป็นหาดที่อยู่ต่อขึ้นไปทางด้านเหนือของหาดยาวที่มีแนวหาดเทียนตะวันตกกับหาดกรวดเป็นหาดเล็กๆ อยู่ต่อเนื่องกันไปกับหาดยาว โดยมีแหลมตาทองอินคั่นอยู่ระหว่างปลายหาดกรวดกับหาดสลัด ในอดีตเชื่อว่าเป็นที่ซ่องสุมของหมู่โจรสลัดที่เคยออกจี้ปล้นแถบน่านน้ำนี้และใช้อ่าวสลัดเป็นที่พำพำนักและกำบังคลื่นลมมาก่อน หาดสลัดวางตัวเป็นแนวเหนือใต้โค้งรับกับแหลมจั่วที่ยื่นออกไปในทะเลและดูคล้ายหาดครึ่งวงกลมสวยงามมีความยาวราว 1 กิโลเมตร ตลอดแนวหาดจะมีรีสอร์ทตั้งอยู่เรียงรายและเป็นรีสอร์ทที่ ค่อนข้างดีมีคุณภาพ รีสอร์ทแถบนี้เริ่มกิจการมาตั้งแต่ราว 15 ปีที่แล้วโดยรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวสวีเดนก่อน…

ดูตะวันลับขอบฟ้า หาดศรีธนู หาดเจ้าเภา หาดสน เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

ในบรรดาชายหาดด้านตะวันตกทั้งหมดนั้น หาดศรีธนู หาดเจ้าเภา และหาดสน จัดได้ว่าเป็นชายหาดที่มีมุมมองพระอาทิตย์ตกได้สวยกว่าหาดใดๆ ทั้งนี้เนื่องจากมุมมองทางทิศตะวันตกแถบนี้สามารถแลเห็นหมู่เกาะอ่างทองเรียงรายอยู่ตรงหน้าอย่างสวยงามจะต่างกันก็ตรงที่มองจากมุมไหนเท่านั้น หาดศรีธนูจะเริ่มจากปลายแหลมศรีธนูขึ้นไปทางด้านทิศเหนือ บริเวณแหลมศรีธนู เป็นปลายแหลมยื่นลงไปในทะเล มีลักษณะเป็นเนินเตี้ยๆ เป็นที่ตั้งของรีสอร์ท สวยงามหลายแห่ง ซึ่งหากได้ยืนอยู่บนยอดเนินก็จะเห็นมุมมองพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจน ถัดจากแหลมศรีธนูจะเป็นหาดศรีธนูที่ต่อไปถึงแหลมเหนียด ความยาวราว 800 เมตร เนื่องจากแถบนี้มีหาดทรายสวยงามมีต้นสนทะเลขึ้นอยู่เป็นทิวบางคนจึงเรียกว่าแหลมสน ชายหาดบริเวณนี้ถือเป็นหาดที่มีคุณภาพ มีรีสอร์ทและบังกะโลอยู่หลายแห่งสามารถลงเล่นน้ำทะเล นอนอาบแดดและชมพระอาทิตย์ตกได้เป็นอย่างดี ในครั้งอดีตเมื่อราว 40 ปีมาแล้วพื้นที่แถบนี้เคยเป็นเหมืองแร่ดีบุกมาก่อน ปัจจุบันเลิกกิจการไปประมาณ 20 ปีที่แล้ว จึงยังมีขุมเหมืองเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง เรียกว่า ทะเลสาบแหลมสน…

มะพร้าวเอนอ่าววกตุ่ม เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

เส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายหาดตะวันตกนี้จะเริ่มจากท้องศาลามีถนนขนาดเล็กเลาะเลียบอ่าวในวก อ่าวปลายแหลม ไปเรื่อยๆจนถึงอ่าววกตุ่ม แถบนี้ท้องทะเลเป็นโคลนและค่อนข้างตื้นไม่เหมาะกับการเล่นน้ำทะเล ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีป่าโกงกางขึ้นอยู่ทั่วไป บางแห่งเป็นหาดขนาดเล็กและบังกะโลรวมทั้งรีสอร์ทขนาดใหญ่ตั้งอยู่บ้างแต่ไม่มากนักอย่างไรก็ดีบริเวณนี้กลับเป็นพื้นที่หมู่บ้านประมงชายฝั่งที่มีวิถีชีวิตของชาวประมงและอู่ต่อเรือขนาดเล็กของชาวบ้านให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาถึงวิถีชาวเกาะได้อย่างดี ทั้งยังเป็นแหล่งที่ชาวบ้านมักออกแทงกุ้งในเวลากลางคืน ต่อวาย(การจับปลาหมึกยักษ์) ในเวลาใกล้รุ่งยามน้ำลด และหาหอยกลมในเวลากลางวันกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ในช่วงเวลาน้ำลง การหาหอยกลมนี้เป็นวิถีชีวิตของผู้คนแถบนี้มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายายโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านออกไปหาหอยในทะเล ด้วยการเอาน้ำมันพืชใช้แล้วใส่ขวดแชมพูแล้วหยดลงไปบนผิวน้ำทะเล ทำาให้เห็นน้ำทะเลใสขึ้นสามารถมองทะลุลงไปถึงพื้น เบื้องล่างเห็นตัวหอยที่อยู่ตามหน้าดินจึงจับหอยขึ้นมาได้ หอยกลมนี้มีรสชาติ หวานอร่อยนำมาทำาอาหารได้หลายอย่าง เช่น ผัดกะเพรา ผัดน้ำมันหอย ต้มกะทิและเอาเนื้อมาแกงกินได้ ในปีหนึ่งจะมีเทศกาลจับหอยกลมกัน 1 ครั้ง ประมาณเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงลมพัทธยาจะมีหอยชนิดนี้เข้ามามาก โดย อบจ.และเทศบาลร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวออกไปหาหอยกลมแข่งขันกันตามกรรมวิธีท้องถิ่นแล้วเอามาทำอาหารรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อยเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของอ่าววกตุ่ม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติรักษาระบบนิเวศด้วยการทิ้งซากปะการังเพื่อให้เป็นที่อยู่ของหอยกลมในพื้นที่…

แหล่งท่องเที่ยว บริเวณหาดท้องศาลา เกาะพะงัน

ชื่อหาด “ท้องศาลา” นี้มีกำาเนิดมาจากครั้งอดีตเมื่อราว พ.ศ. 2427เคยมีศาลาอยู่หลังหนึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณสะพานท่าเรือ ซึ่งเจ้าเมืองไชยา เคยใช้นั่งว่าราชการงานเมือง และใช้เป็นที่พักผ่อนปัจจุบันเรียกว่าศาลาที่ว่าการหรือทำเนียบ จึงเรียกขานหาดแถบนี้ว่า หาดท้องศาลา ซึ่งต่อมากลายเป็นศูนย์กลางความเจริญของเกาะพะงัน มีทั้งท่าเรือเฟอร์รี่ เรือด่วน รถรับส่งนักท่องเที่ยว ร้านอาหารนานาชาติ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านกาแฟน่ารักๆ ตลอดจนโรงแรมที่พัก ธนาคาร บริษัทท่องเที่ยว รถเช่า ฯลฯ ถือว่าเป็นแหล่งที่มีสิ่งอำานวยความสะดวกที่สุดบนเกาะพะงัน บริเวณหาดท้องศาลาแห่งนี้หากเป็นเทศกาลงานประเพณีสงกรานต์ ก็จะเป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่มารวมตัวเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ก็ยังมีประเพณีชักพระในวันออกพรรษาเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สำาคัญซึ่งกำเนิดขึ้นที่เกาะพะงัน เป็นประเพณีพื้นบ้านที่ชาวเกาะพะงันยังคงยึดถือและปฏิบัติกันสืบมา หาดท้องศาลา หาดท้องศาลา…

ปั่นจักรยานท่องเที่ยวเกาะพะงันได้ทั่วถึงและปลอดภัย

ด้วยขนาดพื้นที่ ภูมิประเทศ ตลอดจนการแบ่งโซนการใช้ประโยชน์พื้นที่ด้วยฝีมือของธรรมชาติ ประกอบกับ “วิถีพะงัน”การท่องเที่ยวด้วยจักรยานเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ขอแนะนำพร้อมประทับตรายืนยันให้ผู้เดินทางท่องเที่ยวรับรู้ว่า “เหมาะสม” ถนนทั่วเกาะพะงันตัดตรง ตัดขวาง ระโยงระยางทั่วเกาะนับรวมกันได้ความยาวที่ 74.72 กิโลเมตรเส้นทางเชื่อมโยงที่ยาวที่สุดคือเส้นท้องศาลา-อ่าวท้องนายปาน 17.0 กิโลเมตร สภาพเป็นถนนซีเมนต์ผสมถนนดิน แม้วันนี้ยังไม่มีเลนช่องทางจักรยานเป็นการเฉพาะ แต่ถนนทั่วเกาะพะงันยังมีพาหนะบนถนนน้อยมาก สิ่งที่ผู้เดินทางจะได้พบเจอบนสองฝั่งถนนแทบทุกสายต่างหากที่มากมายหลากหลาย เกาะแค่นี้มีนาข้าว มีดงเสม็ดขาวมีวิถีชาวบ้านพะงันที่บ่งบอก ว่าวิถีพะงันนี่แหล่ะที่จะนำพาไปสู่เกาะสีเขียวได้ ทั้งสถาปัตยกรรมบ้านที่สอดคล้องกับสภาพอากาศ นิสัยชอบปลูกผักผลไม้ปลอดสารพิษข้าง บ้านรับประทานกันเอง วิถีเศรษฐกิจพอเพียง รักสะอาด รักธรรมชาติ เก็บความเป็น “บ้าน บ้าน”ไว้ครบถ้วน ทั้งเช้าและบ่ายเป็นเวลาที่เหมาะสม…

สถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต (ตอนที่ 2)

วัดสีลสุภาราม อยู่ห่างจากตัวเมือง ๗ กิโลเมตร จากสนามกีฬาสุระกุล เลี้ยวซ้ายไปห้าแยกฉลอง วัดสีลสุภารามจะอยู่ทางขวาก่อนถึงตัวห้าแยกประมาณ ๔ กิโลเมตร วัดแห่งนี้มีเจ้าอาวาส คือ หลวงปู่สุภา ซึ่งมีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี ครอง เพศบรรพชิตเรื่อยมาตราบจนปัจจุบัน เป็นพระปฏิบัติขณะเดียวกันก็สร้างวัดเป็นถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา ทั้งที่เป็นวัดและสำนักสงฆ์รวมกันได้ ๓๖ แห่ง ที่สำคัญคือ ประวัติการสร้างพระเสด็จกลับซึ่งเป็นวัตถุมงคลชั้นสูงที่สร้างถูกต้องตามหลักพุทธศาสตร์ทุกประการ ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวภูเก็ตโดยทั่วไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๖๒๘ ๐๗๗๔ อ่าวฉลอง…

แหล่งท่องเที่ยวในอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต (ตอนที่ 1)

เขารัง เป็นภูเขาเตี้ย ๆ รถยนต์สามารถขึ้นไปจนถึงยอดเขา เทศบาลจัดให้เป็นสวนสาธารณะ สวนสุขภาพและยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม จากยอดเขาสามารถมองเห็นตัวเมืองภูเก็ต ท้องทะเลสีฟ้ากว้างใหญ่ และเกาะต่างๆ โดยรอบมีร้านอาหารอร่อยหลายร้านให้เลือกรับประทาน สะพานหิน เป็นสถานที่พักผ่อนภายในตัวเมือง อยู่สุดถนนภูเก็ต เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์หลัก ๖๐ ปี สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่กัปตันเอ็ดเวิร์ด โธมัส ไมล์ ชาวออสเตรเลีย ผู้นำเรือขุดแร่ลำแรกมาใช้ขุดแร่ดีบุกในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ ตึกโบราณ อาคารส่วนใหญ่ในตัวเมืองภูเก็ตมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบ “ชิโน-โปรตุกีส”…

ภูมิศาสตร์ของเกาะพะงัน เพชรเม็ดงามบริสุทธิ์ของอ่าวไทย

ด้วยสภาพที่ตั้งของเกาะพะงันที่เป็นเกาะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในช่องอ่างทอง ทางด้านทิศเหนือของเกาะสมุย มีขนาดเนื้อที่ถึง 122 ตารางกิโลเมตร เป็นรองก็แต่เกาะภูเก็ต เกาะสมุย เกาะช้าง และเกาะตะรุเตาเท่านั้น เกาะพะงันจึงเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีสภาพภูมิศาสตร์อุดมสมบูรณ์ทั้งหาดทรายชายทะเลที่มีอยู่เกือบรอบเกาะโดยมีแนวปะการังอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะเหมาะแก่การดำน้ำชมความงามของโลกใต้สมุทรกับมีสันดอนทรายหรือหลังงันอยู่เป็น ระยะอันเป็นที่มาของชื่อเกาะพะงันในอดีตถัดจากชายหาดขึ้นไปเป็นพื้นที่ราบเชิงเขาที่เหมาะแก่การทำาสวนมะพร้าว สวนผลไม้และสวนยางพาราไปจนจรดแนวเขาที่วางตัวเหนือใต้อยู่เป็นแกนกลางของพื้นที่เกาะแนวเขาเหล่านี้เองเป็นพื้นที่ป่าไม้อุดมสมบูรณ์มาแต่ครั้งโบราณกาลเป็นต้น น้ำลำาธารหลายสายที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนเกาะพะงัน มีน้ำตก ลำาธารอันสวยงามจนเป็นสถานที่ที่พระมหากษัตริย์หลายพระองค์ทรงเคยเสด็จประพาสมาถึงที่นี่โดยเฉพาะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสมาที่เกาะแห่งนี้ถึง 14 ครั้ง นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดโดยเฉพาะกวางป่า มีหลักฐานกล่าวกันว่าเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จะเสด็จเกาะพะงันเป็นครั้งที่ 2 นั้นมีการเตรียมกวางป่าให้พระองค์ท่านทรงปล่อย แต่เมื่อทรงเปลี่ยนแปลงกำหนดการไม่ได้มาเยือน จึงมีการปล่อยกวางเหล่านั้นเข้าป่าไป…

เกาะพะงันกับคุณค่า และความหมายของการเสด็จประพาส

ในห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของการเสด็จประพาสไปในสถานที่ต่างๆ ของพระมหากษัตริย์ไทยนั้น พระพุทธเจ้าหลวงหรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 นับทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงโปรด การเสด็จประพาสหัวเมืองต่างๆ ไปและทรงเยี่ยมเยียนราษฎรของพระองค์อยู่เสมอ ถึงขนาดบางครั้งพระองค์ก็เสด็จประพาสไปในที่ต่างๆโดยการเสด็จ ประพาสแต่ละครั้งทรงไม่เปิดเผยพระองค์เองว่า เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทำให้ ทรงได้รับรู้ถึงความทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์และเห็นความเป็นอยู่ ของบ้านเมืองตามชนบทตลอดจนได้สร้างความใกล้ชิดกับราษฎร นับเป็น พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง เกาะพะงัน นับเป็นสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเป็นการส่วนพระองค์และได้เคยเสด็จประพาสมาถึงที่นี่บ่อยครั้งกว่าที่แห่งใดในประเทศไทยถึง 14 ครั้ง ระหว่าง พ.ศ.2431-2452 ซึ่งมีทั้งที่เป็นทางผ่านตามเส้นทางเสด็จสู่แหลมมลายูหรือการเสด็จมณฑล ฝ่ายใต้ เช่นเมืองนครศรีธรรมราช สงขลา เป็นต้น การเสด็จประพาสครั้งแรกนั้น เกิดขึ้นใน…

พงันในอดีตกว่าจะมาเป็นเกาะพะงัน

เกาะพะงัน นับเป็นเกาะขนาดใหญ่เคียงคู่กับเกาะสมุย ตั้งอยู่ใน ทะเลอ่าวไทยบริเวณที่เรียกว่า ช่องอ่างทอง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ในประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ต เกาะสมุย เกาะช้างและเกาะตะรุเตาโดยมีพื้นที่ 122 ตารางกิโลเมตร จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี เชื่อว่าเกาะพะงันนี้ เคยมีผู้คนอาศัยอยู่มานานกว่า 1,300-2,000 ปี โดยคนกลุ่มแรกที่มาถึงเกาะพะงันน่าจะเป็นนักเดินเรือชาวโจฬะหรือชนเผ่าทมิฬ ซึ่งเป็นคนพื้น เมืองในแถบอินเดียตอนใต้ที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 14 ถึงพุทธศตวรรษที่ 18 โดยเฉพาะในรัชสมัยพระเจ้าราชาราชะโจฬะที่ 1 และพระเจ้าราเชนทระโจฬะที่ 1 ที่ได้ทรงแผ่ขยายพระราชอาณาจักรมา ถึงคาบสมุทรมลายู…