July 2014

ล่องแก่งหินเพิง ปราจีนบุรี

ล่องแก่งหินเพิง ปราจีนบุรี

ผจญภัยแก่งหินงามกลางลำน้ำใส เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงสายฝนโปรยปรายหลายคนจะนึกถึงจังหวัดปราจีนบุรี เพราะนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากิจกรรมล่องแก่งหินเพิงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว จุดเด่นของแก่งหินเพิงคือเป็นสายน้ำใสสะอาดที่มีแก่งหินน้อยใหญ่ให้ล่องแก่งท้าเกลียวคลื่นกันอย่างสนุกมากมาย ระดับความสนุกก็ไม่ยากจนเกินไปสามารถมาล่องแก่งกันได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ แก่งหินเพิงจึงนับเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดปราจีนบุรีมานานหลายปี กิจกรรมล่องแก่งหินเพิงมีเวลาเพียงช่วงสุดสัปดาห์ก็สามารถมาล่องแก่งได้ไม่ยาก จากกรุงเทพ เดินทางสู่อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี มีระยะทางเพียง 214 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณเที่ยงวันก็ถึงรีสอร์ตในแก่งหินเพิงแล้ว จากนั้นช่วงบ่ายไปล่องแก่งกันต่อได้เลย แก่งหินเพิง ตั้งอยู่ในหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.9 นับเป็นหน่วยพิทักษ์ที่ขึ้นกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากลานจอดรถต้องเดินเข้าไปยังต้นน้ำหรือบริเวณที่เรียกว่า แก่งหินเพิง โดยมีระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 45 นาที เมื่อมาถึงแก่งหินเพิงผู้ประกอบการจะเริ่มประกอบเรือยาง และสาธิตการพายเรือให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเรือยางหนึ่งลำสามารถนั่งได้ 8-10 คน พร้อมอุปกรณ์ป้องกันครบครัน เมื่อพร้อมก็เริ่มต้นล่องแก่งกันเลย จากจุดเริ่มต้นคือ แก่งหินเพิงจะล่องผ่าน แก่งวังบอน บริเวณนี้มีโขดหินสองฝั่งขวางกระแสน้ำอยู่ บีบให้กระแสน้ำเข้าหากันเป็นรูปตัววีลุ้นระทึกได้อย่างดี จากนั้นจะล่องเรือต่อมาพบกับ แก่งลูกเสือ มีความสนุกสนานตื่นเต้นไม่แพ้แก่งหินเพิง และผ่านไปจะพบแก่งงูเห่า ซึ่งเป็นแก่งสุดท้ายของการล่องแก่งหินเพิง จากนั้นจะล่องมาถึงจุดขึ้นฝั่งใกล้กับลานจอดรถ แต่หากใช้บริการล่องแก่งจากรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ริมน้ำทางผู้ประกอบการก็จะพาล่องกลับไปขึ้นฝั่งยังรีสอร์ทกันเลย กิจกรรมล่องแก่งหินเพิงเที่ยวสนุกสุดในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน นับเป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลากส้นแก่งจนไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ นับช่างเหมาะสำหรับการล่องแก่งหินเพิงที่สุด แต่หากพ้นช่วงฤดูฝนไปแล้วแก่งหินเพิงนี้จะกลายเป็นลานหินทรายอันกว้างใหญ่ที่มีสีสันสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ นอกจากกิจกรรมประลองกำลังกับสายน้ำแล้ว ถัดจากแก่งหินลงมาทางใต้บนสายน้ำใสใหญ่เส้นเดียวกัน ยังเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทริมน้ำที่โดดเด่นทั้งบรรยากาศสุดชิลล์ …

ล่องแก่งหินเพิง ปราจีนบุรี Read More »

พายคายัคเขื่อนสิริกิติ์ อุตรดิตถ์

พายคายัคเขื่อนสิริกิติ์ อุตรดิตถ์

ล่องเรือชมความงามของทะเลสาบ และเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดของไทย เขื่อนสิริกิติ์ เป็นเขื่อนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นขวางกั้นลำน้ำน่านจนเกิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ โดยภายในทะเลสาบแห่งนี้ยังปรากฏเกาะแก่งน้อยใหญ่มากมาย จึงเหมาะสำหรับล่องเรือยชมทิวทัศน์อันงดงาม ซึ่งกิจกรรมล่องเรือชมทะเลสาบบรรยากาศสุดชิวก็มีให้เลือกทั้งเรือคายัคขนาดกะทัดรัด และเรือหางยางลำใหญ่สำหรับครอบครัว เขื่อนสิริกิติ์ในอดีตมีชื่อว่า เขื่อนผาซ่อม ตัวเขื่อนเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2506 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2515 และได้รับพระบรมราชานุญาติให้อัญเชิญพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถมาใช้เป็นชื่อเขื่อน โดยขนานนามว่า เขื่อนสิริกิติ์ โดยเป็นเขื่อนที่มีความจุเป็นอันดับสามรองจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนภูมิพล มีความสูงจากฐานราก 113.60 เมตร ยาว 810 เมตร และกว้าง 12 เมตร พื้นที่ส่วนหนึ่งของเขื่อนสิริกิติ์ตั้งอยู่ติดกับพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน บริเวณนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนสไตล์แค้มปิ้งใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งมีกิจกรรมเด่น คือ ล่องเรือชมวิวในทะเลสาบ หากชื่นชอบการพายเรือแบบเอื่อยๆ สัมผัสวิวอันงดงามแบบเนิบช้า บริเวณเขื่อนมีเรือคายัคให้เช่าพายชมวิวทะเลสาแบบส่วนตัว สำหรับครอบครัว และกลุ่มคณะที่ต้องการเรือลำใหญ่สามารถเดินทางเที่ยวชมรอบเขื่อนทั้งหมู่คณะ บริเวณเขื่อนมีเรือหางยาวให้บรการ นอกจากวิวทะเลสาบแล้ว โปรแกรมนี้จะรวมการเที่ยวชมเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์กลางน้ำด้วย ใช้เวลาเที่ยวชมประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น กลับมาถึงท่าเรือช่วงเย็นไปชมพระอาทิตย์ตกบนสันเขื่อน จากนั้นเดินทางกลับไปนอนแพริมน้ำสัมผัสอากาศเย็นสบาย วันรุ่งขึ้นบริเวณเขื่อนสิริกิติ์ และอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้ไปเที่ยวชมกันอีกหลายแห่ง เช่น สวนสุมาลัย สวนหย่อมที่ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ สะพานแขวน …

พายคายัคเขื่อนสิริกิติ์ อุตรดิตถ์ Read More »

ล่องแก่งเรือยางแม่น้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก

ล่องแก่งเรือยางแม่น้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก

สายน้ำแห่งคนกล้า ผู้มาท้าทายสายน้ำเข็กแสนสนุก แม่น้ำเข็ก เป็นแม่น้ำที่มีต้นน้ำมาจากเขาค้อจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่ช่วงที่สายน้ำไหลขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ในเขตอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นับเป็นช่วงที่มีทิวทัศน์สวยงาม และเป็นช่วงที่มีแก่งน้อยใหญ่ให้ล่องแก่งเรือยางกันสนุกที่สุด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนพรำนักผจญภัยบนสายน้ำจะได้ฟันฝ่าแก่งต่างๆ ตั้งแต่ระดับ 1-5 กันตลอดทาง สายน้ำเข็กจึงถูกยกย่องให้เป็นเส้นทางล่องแก่งที่มีอัตราความสนุกติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย กิจกรรมล่องแก่งเรือยางแม่น้ำเข็ก คุณสามารถมาล่องแก่งกันได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งช่วงที่แม่น้ำเข็กมีน้ำให้ล่องแก่งมาก โดยจุดเริ่มต้นจะต้องนั่งรถไปยังบ้านท่าข้าม อยู่ริมจากทางหลวงหมายเลข 12 หลังใส่เสื้อชูชีพซักซ้อมการพายเรือ การช่วยเหลือตนเองแล้ว ก็ได้เวลาลงเรือยางลุยแม่น้ำเข็กกัน สำหรับเส้นทางล่องแก่งในช่วงแรกๆ จะเป็นเพียงสายน้ำนิ่งๆ เพื่อให้คุณได้สร้างความคุ้นเคยกับไม้พาย จากนั้นไม่นานก็จะเริ่มเข้าสู่ความสนุกของสายน้ำแห่งนี้กัน โดยจะเริ่มผ่านแก่งต่างๆ ได้แก่ แก่งท่าข้าม แก่งต้นไทร แก่งเวฟยาว แก่งพนาวัลย์ แก่งมรดกป่า แก่งปากยาง แก่งหินลาด และแก่งวังตะเยน ในช่วงนี้แก่งจะมีความยากในระดับกลางๆ ประมาณระดับ 1-3 จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่สายน้ำเข็กช่วงที่มีแก่งใหญ่ๆ หวาดเสียวกัน เช่น แก่งสบยาง แก่งสวนรัชมังคลา แก่งซาง แก่งโสภาราม แก่งดงสัก แก่งนางคอย แก่งยาว และแก่งหิน …

ล่องแก่งเรือยางแม่น้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก Read More »

อุ้มผางคี ล่องแก่งหน้าฝน ลุยฝ่า 77 แก่ง แห่งอุ้มผาง จังหวัดตาก

อุ้มผางคี ล่องแก่งหน้าฝน ลุยฝ่า 77 แก่ง แห่งอุ้มผาง จังหวัดตาก

ในช่วงฤดูฝนมาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อาจจะเงียบเหงาไปตามฤดูกาล แต่ไม่ใช่กับอำเภออุ้มผาง เพราะในช่วงฝนมาป่าเขียวภายในอำเภอใหญ่แห่งนี้ก็ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ไปลุยกันอีกหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือกิจกรรมล่องแก่งอุ้มผางคี ซึ่งเป็นกิจกรรมผจญภัยบนสายน้ำที่มีให้สัมผัสกันเพียงช่วงฤดูฝนเท่านั้น และว่ากันว่าเป็นสายน้ำแสนสนุกชุ่มฉ่ำที่มีแก่งให้ลุยฝ่ากันถึง 77 แก่งกันเลยทีเดียว ใครไม่กลัวฝนไม่กลัวเปียกจึงไม่ควรพลาดที่สุด กิจกรรมล่องแก่งเรือยางอุ้มผางคีจะเริ่มต้นกันที่หมู่บ้านกระเหรี่ยงอุ้มผางคี โดยคำว่า คี เป็นภาษากระเหรี่ยงแปลได้ว่า ต้นน้ำ อุ้มผางคีก็คือต้นน้ำอุ้มผางนั่นเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในลำน้ำสาขาที่ไหลไปรวมกับแม่น้ำแม่กลอง ลำน้ำอุ้มผางลักษณะเป็นสายน้ำเล็กๆ ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร แต่ว่ากันว่ามีแก่งน้อยใหญ่ขวางกลางลำน้ำมากถึง 77 แก่ง จึงนับว่าเหมาะสำหรับนักท่องไพรอย่างแท้จริง โดยหลังจากเดินทางมาถึงหมู่บ้านอุ้มผางคีจะต้องเดินป่าเพื่อไปยังจุดล่องเรือยาง สัมภาระทั้งหลายโดยเฉพาะเรือยางต้องนำใส่หลังช้างไป ส่วนนักท่องเที่ยวสวมชูชีพ และนำของใช้ส่วนตัวเดินกันไปเอง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เส้นทางไม่ง่ายเพราะเป็นป่า และชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน บางช่วงต้องลุยข้ามห้วยกว่าสิบครั้ง ห้วยไหนน้ำไหลแรงผู้ประกอบการจะมีเชือกให้เกาะข้ามฝ่าน้ำกันอย่างสนุกสนาน ใช้เวลาเดินสู่จุดเริ่มล่องเรือยางก็ใช้เวลาประมาณครึ่งวันแล้ว แวะกินข้าวเที่ยงเรียบร้อย สักพักก็จะได้เวลาลงน้ำล่องเรือยางกัน ซึ่งเรือที่ใช้ล่องแก่งอุ้มผางคีจะมีขนาดเล็กกว่าเรือยางล่องแก่งแม่น้ำแม่กลอง เพราะลักษณะสายน้ำที่นี่แคบ และหินเยอะกว่าหนึ่งลำสามารถนั่งได้ 5-6 คน มีฝีพายหัว และท้ายของผู้ให้บริการคอยควบคุมเรือ ส่วนนักท่องเที่ยวนั่งอยู่ตรงกลางออกแรงพายช่วยสู้กับสายน้ำ เส้นทางล่องแก่งอุ้มผางคี ใช้เวลาล่องประมาณครึ่งวันหรือประมาณ 4-5 ชั่วโมง ผ่านแก่งยากง่ายน้อยใหญ่กว่า 77 แห่ง …

อุ้มผางคี ล่องแก่งหน้าฝน ลุยฝ่า 77 แก่ง แห่งอุ้มผาง จังหวัดตาก Read More »

ทีลอเล สุดยอดเส้นทางผจญภัยบนสายน้ำของอุ้มผาง จังหวัดตาก

ทีลอเล สุดยอดเส้นทางผจญภัยบนสายน้ำของอุ้มผาง จังหวัดตาก

โปรแกรมล่องเรือยางสู่น้ำตกทีลอเลนั้น เป็นเส้นทาง เป็นเส้นทางล่องแม่น้ำแม่กลองตอนล่างของอุ้มผาง ซึ่งเป็นช่วงลำน้ำที่มีแก่งน้อยใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างทางกว่า 14 แก่ง และแต่ละแก่งยังมีความยากในระดับ 4-5 ทั้งนั้น แถมยังต้องค้างแรมกลางป่ากันอีกคืน และขากลับยังต้องเดินเท้าหรือนั่งช้างกันอีกเป็นวัน เส้นทางล่องแก่งทีลอเลจึงต้องอาศัยทั้งร่างกาย และความกล้าของจิตใจมากกว่าโปรแกรมอื่นๆ ในอุ้มผาง เส้นทางนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดเส้นทางล่องแก่งผจญภัยของอุ้มผางมาช้านาน สำหรับเส้นทางไปเที่ยวชมน้ำตกทีลอเลจะเริ่มต้นด้วยการนั่งรถจากอุ้มผางไปหมู่บ้านปะหละทะ ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร จากนั้นค่อยลงเรือยางกันต่อ ซึ่งหลังจากมาถึงจุดปล่อยเรือคุณจะได้รับการสาธิตการพายเรือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ศัพท์ที่ใช้ระหว่างล่องแก่ง ช่วงแรกพายไปไม่นานก็จะพลแก่งเลกะติเป็นแห่งแรก ต่อด้วยแก่งบันได แก่งตุ๊กแก แก่งหักศอก แก่งน้ำตกน้อย และแก่งคนมอง เป็นแก่งใหญ่ล่องสนุกสุดของลำน้ำสายนี้ เมื่อผ่านแก่งนี้ไปจะพบหาดทรายกว้างผู้ประกอบการจะใช้เป็นที่ตั้งแค้มป์ จากจุดนี้จะต้องล่องเรือยางไปอีก 2 แก่ง จะถึงน้ำตกทีลอเล บางคณะจะล่องต่อไปยังทีลอเลเลย แต่บางคณะก็จะรอไปชมในช่วงเข้าเพราะเป็นช่วงเวลาที่มีความสวยงามที่สุด หลังอาหารเช้าล่องแก่งกันต่อประมาณ 40 เมตรจะพบแก่งกะซอจิ๊เก ลักษณะเป็นโขดหินใหญ่ตั้งตระหง่านขวางลำน้ำแม่กลอง กระแสน้ำถูกแยกออกเป็นสองสายแล้วไหลบรรจบกันที่แก่ง จากนั้นจะพบแก่งอกแตก แก่งเล็กๆ ยาวประมาณ 60 เมตร เป็นแก่งที่มีกระแสน้ำไหลแรงเป็นเกลียวคลื่น และหลุดจากแก่งไปประมาณ 200 เมตร จะพบน้ำตกทีลอเล คำว่าทีลอเลเป็นภาษากระเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกหินตัวน้ำตกสูงราว …

ทีลอเล สุดยอดเส้นทางผจญภัยบนสายน้ำของอุ้มผาง จังหวัดตาก Read More »

ล่องแก่งไปชมมหานทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก

ล่องแก่งไปชมมหานทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก

ในอดีตการจะเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกทีลอซูถือว่าไม่ง่ายนัก เพราะหลังจากนั่งรถฟันฝ่าโค้งนับพันโค้งบนถนนลอยฟ้ากันจนถึงตัวเมืองอุ้มผางแล้ว ยังต้องนั่งรถบนเส้นทางดินลูกรังกันไปอีกหลายกิโลเมตร เรียกได้ว่านั่งรถโยกเยกกันหลายชั่วโมงกว่าจะได้ยลน้ำตกทีลอซูอันยิ่งใหญ่ แต่สำหรับปัจจุบันถนนหนทางสู่น้ำตกทีลอซูถูกปรับปรุงพัฒนาให้เป็นเส้นทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม จากตัวเมืองอุ้มผางระยะทาง 42 กิโลเมตร นั่งรถสบายไม่ต้องโยกมากนัก จากนั้นถึงลานจอดรถเดินเท้าอีกเพียง 1.8 กิโลเมตร เท่านั้นก็ได้ชมน้ำตกแล้ว แต่หากอยากผจญภัยกว่านั้นจากอุ้มผางก็ยังมีเส้นทางล่องแก่งไปยังน้ำตกทีลอซู ซึ่งเป็นเส้นทางสบายๆ ไม่ยากมาก แต่ได้บรรยากาศลุยๆ ในสไตล์อุ้มผางเหมือนกัน เส้นทางล่องแก่งเรือยางไปเที่ยวชมน้ำตกทีลอซู เป็นเส้นทางล่องสบายๆ ไม่โหดจนเกินไป เพราะลำห้วยยะแมะ และแม่น้ำแม่กลองในช่วงอำเภออุ้มผางนี้เป็นลำน้ำขนาดไม่ใหญ่ มีสายน้ำไหลแบบเอื่อยๆ เท่านั้น และหากคุณเลือกที่พักติดลำห้วยยะแมะในตัวเมือง หลังอาหารเช้าก็สามารถลงเรือจากที่พักได้เลย แต่หากเลือกที่พักไม่ติดน้ำทางผู้ประกอบการก็ยังมีจุดลงเรือให้บริการอยู่หลายแห่ง สำหรับจุดเด่นของเส้นทางนี้ไม่ได้มีเพียงปลายทางที่น้ำตกทีลอซูเท่านั้น แต่ระหว่างทางยังได้แวะเที่ยวชมธรรมชาติสวยๆ กันหลายแห่งด้วย จุดแรกคือ น้ำตกทีลอจ่อ หรือน้ำตกสายฝน ลักษณะเป็นสายน้ำไหลตกลงจากหน้าผาสูงชันที่มีมอส และเฟินเกาะจนเขียวขจี มองดูคล้ายสายฝนในช่วงฤดูฝนอันชุ่มฉ่ำ จากนั้นพายต่อไปไม่ไกลจะพบ น้ำตกสายรุ้ง ลักษณะคล้ายน้ำตกสายฝน แต่เมื่อถูกแสงแดดจะเกิดเป็นรุ้งกินน้ำอันงดงาม และหลังจากพายเรือผ่านน้ำตกมาสองแห่ง ต่อมาก็จะได้เปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวบ่อน้ำร้อน ต้องจอดเรือ และเดินขึ้นฝั่งเข้าไปชม เป็นบ่อน้ำร้อนริมแม่น้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก จากนั้นกลับไปพายเรือกันต่อไม่นานก็จะพบ แก่งตะโคะบี๊ เป็นแก่งเดียวของเส้นทางนี้ เป็นแก่งไม่รุนแรง เขย่าพอให้ตื่นเต้นช่วงสั้นๆ เท่านั้น หลังจากผ่านแก่งตะโคะบี๊ก็จะถึงจุดสิ้นสุดการล่องเรือยางที่ บ้านท่าทรายขึ้นฝั่งพักกินมื้อเที่ยงที่นี่ ช่วงบ่ายทางผู้ประกอบการมีรถเตรียมไว้ให้อย่างดีจากบ้านท่าทรายระยะทางห่างจากน้ำตกทีลอซูประมาณ …

ล่องแก่งไปชมมหานทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก Read More »

ล่องแก่งแม่ละเมา จังหวัดตาก

ล่องแก่งแม่ละเมา จังหวัดตาก

ผจญภัยเบาๆ กันทั้งครอบครัวในแม่สอด ใครกำลังคิดจะไปผจญภัยกับกิจกรรมล่องแก่งสู่น้ำตกทีลอซู และทีลอเลในอำเภออุ้มผาง ระหว่างทางก่อนเข้าไปสู่อำเภออุ้มผางคุณน่าจะแวะซ้อมมือกับกิจกรรมล่องแก่งแม่น้ำแม่ละเมาในอำเภอแม่สอดเสียหน่อย เพราะเส้นทางล่องแก่งเรือยางแม่ละเมานับเป็นเส้นทางล่องที่มีระดับไม่ยากเพียง 1-2 เท่านั้น แถมใช้เวลาไม่นานจึงเหมาะแก่การสร้างความคุ้นเคย และสัมผัสบรรยากาศของกิจกรรมล่องแก่ง และด้วยเป็นกิจกรรมสบายๆ เส้นทางนี้จึงพายสนุกกันทั้งครอบครัว ลำน้ำแม่ละเมา มีต้นน้ำมาจากลำห้วยหลายสายจากเทือกเขาในเขตติดต่อกับอำเภอพบพระ อำเภออุ้มผาง โดยไหลไปทางทิศเหนือผ่านบ้านแม่ละเมา อำเภอแม่สอด ด้วยความเป็นลำน้ำสายเล็กมีระดับน้ำไม่ลึกมากนัก ลำน้ำแม่ละเมาจึงถูกใช้เป็นสายน้ำแห่งการล่องแก่งอีกแห่งของตาก เพราะมีแก่งไม่มากระดับความยากจึงมีเพียงแค่ 1-2 เท่านั้น สำหรับโปรแกรมล่องแก่งเรือยางลำน้ำแม่ละเมาจะมีให้บริการ 3 เส้นทาง โดยทั้งสามเส้นทางจะเริ่มต้นล่องกันที่ทางหลวงหมายเลข 105 (ตาก-แม่สอด) ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 51 จุดที่ 2 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 41 และจุดที่ 3 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 37 แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมเลือกเส้นทางที่ 1 เท่านั้นเพราะเป็นเส้นทางล่องง่าย และใช้เวลาไม่นาน โดยจุดล่องแก่งที่ 1 กิโลเมตรที่ 51 จะอยู่ห่างจากทางหลวงหมายเลข 105 ประมาณ 150 เมตร เดินมาไม่ไกลก็จะพบกับลำน้ำแม่ละเมา …

ล่องแก่งแม่ละเมา จังหวัดตาก Read More »

ล่องแก่งล่องน้ำว้า จังหวัดน่าน

ล่องแก่งล่องน้ำว้า จังหวัดน่าน

สุดยอดเส้นทางล่องแก่งหนึ่งเดียวในน่าน น่านเป็นจังหวัดที่มีอุทยานแห่งชาติให้เที่ยวชมกันถึง 7 แห่ง ซึ่งภายในอุทยานแห่งชาติ แต่ละแห่งก็มีธรรมชาติอันสวยงาม และกิจกรรมอันโดดเด่นแตกต่างกันออกไป แต่มีเพียงอุทยานแห่งชาติ เพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่มีกิจกรรมล่องแก่งสุดมันส์ให้สัมผัสกันนั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติแม่จริม อุทยานแห่งชาติใกล้ตัวเมืองน่านที่มีกิจกรรมล่องแก่งเรือยางแม่น้ำว้าเป็นกิจกรรมที่สร้างชื่อเสียงให้แก่อุทยานแห่งชาติแม่จริม มาช้านาน จนหลายคนรู้ดีว่าหากมาเที่ยวน่าน และเกิดอาการคันมือคันไม้อยากล่องแก่งผจญภัยบนสายน้ำขึ้นมาก็ต้องมาเยือนอุทยานแห่งนี้เท่านั้น กิจกรรมล่องแก่งแม่น้ำว้าคุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการล่องแก่งจากทางอุทยานแห่งชาติแม่จริม หรือเลือกใช้บริการทัวร์ล่องแก่งจากผู้ประกอบการในอำเภอแม่จริม และทัวร์ต่างๆ ในตัวเมืองน่านก็ได้ทั้งนั้น โดยเส้นทางล่องแก่งเรือยางแม่น้ำว้าจะมีให้เลือก 2 เส้นทาง เส้นทางแรกคือ เส้นทางลำน้ำว้าตอนกลาง นับเป็นเส้นทางล่องแก่งที่มีความท้าทาย และยากกว่าเส้นทางตอนล่าง โดยเริ่มต้นที่บ้านสบมาง อำเภอบ่อเกลือ ไปจนถึงบ้านวังลูน อำเภอแม่จริม ผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง คืออุทยานแห่งชาติดอยภูคา อุทยานแห่งชาติขุนน่าน และอุทยานแห่งชาติแม่จริม รวมระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ระหว่างทางผ่านแก่งกว่า 100 แก่ง จัดเป็นแก่งที่มีความยากในระดับ 4-5 โดยใช้เวลาในการล่องแก่งถึง 3 วัน 2 คืน จึงเหมาะสำหรับคนรักการผจญภัยอย่างแท้จริงเท่านั้น สำหรับทางที่ 2 คือ เส้นทางลำน้ำว้าตอนล่าง เป็นลำน้ำช่วงที่มีความสวยงาม และนิยมล่องแก่งมากที่สุด …

ล่องแก่งล่องน้ำว้า จังหวัดน่าน Read More »

พายเรือคายัก เขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง

พายเรือคายัก เขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง

เริ่มด้วยแพลาก จบด้วยพายเรือคายัก เขื่อนกิ่วลมสร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำวัง เป็นเขื่อนคอนกรีตมีความสูง 26.50 เมตร ยาว 135 เมตร สันเขื่อนกว้าง 5.35 เมตร เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ที่มีอาณาเขตลุ่มน้ำถึง 2,700 ตารางกิโลเมตร และมีความยาวจากสันเขื่อนจนถึงอำเภอแจ้ห่ม 29 กิโลเมตร ความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้ทำให้เขื่อนกิ่วลมเป็นจุดพักผ่อนล่องแพยอดนิยมของเมืองลำปาง เพราะตลอดทางสามารถนั่งพักผ่อนปิกนิก ตากปลา เล่นน้ำกับครอบครัวได้อย่างเป็นส่วนตัว แถมปลายทางยังมีหาดทรายให้แวะเล่นน้ำ และกิจกรรมพายเรือคายักชมวิวทะเลสาบเป็นของแถมกันด้วย กิจกรรมล่องแพทะเลสาบกิ่วลมจะมีท่าเรือให้บริการ 2 แห่ง คือ ท่าเรือเขื่อนกิ่วลม ในเขตตัวเมืองลำปาง และท่าเรือสำเภาทองในเขตอำเภอแจ้ห่ม สะดวกที่ไหนใช้บริการที่นั่น ราคาค่าบริการ และโปรแกรมเหมือนกันทั้งสองท่า สำหรับเรือสำหรับล่องทั้งสองท่ามีให้เลือกทั้งแบบล่องเรือหางยาว 1-5 คน และเรือนแพขนาดใหญ่ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 30-50 คน ส่วนใหญ่จะนิยมใช้บริการเรือนแพขนาดใหญ่ เพราะภายในแพจะมีโต๊ะ เก้าอี้ เสื้อชูชีพ และห้องครัวให้บริการเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจรับประทานอาหารพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์รอบด้าน รวมถึงเครื่องเสียงคาราโอเกะให้ร้องรำฮัมเพลงกันอย่างสนุกหนาน หากใครนำอุปกรณ์ตกปลามาด้วยก็สามรถสนุกกับกิจกรรมตกปลาได้ตลอดการล่องด้วย จากนั้นหลังจากแพพาล่องชมทะเลสาบ และขุนเขารอบด้านไปสักพักก็จะพาไปจอดเที่ยบท่าบริเวณเกาะวังแก้ว รีสอร์ท ซึ่งเป็นจุดพักผ่อนที่มีหาดทราย และห่วงยางให้เล่นน้ำ รวมถึงเรือคายักก็มีให้เปลี่ยนบรรยากาศมาพายเล่นชมวิวรอบๆ ทะเลสาบ …

พายเรือคายัก เขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง Read More »

ล่องแพไม่ไผ่ลำน้ำแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ล่องแพไม้ไผ่ลำน้ำแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

สนุกได้ทั้งล่องแพไม้ไผ่ และเล่นน้ำชิมอาหารริมธาร อำเภอแม่วาง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 35 กิโลเมตร แม้จะเป็นอำเภอเล็กอันเงียบสงบ แต่ที่นี่ก็มีกิจกรรมให้สัมผัสธรรมชาติเช่นกัน โดยกิจกรรมยอดนิยมของการมาเที่ยวแม่วางก็คือ ล่องแพไม้ไผ่ลำน้ำแม่วางสายน้ำเล็กๆ ที่สามารถมาล่องแพชมสายน้ำและผืนป่าได้อย่างสนุกทั้งครอบครัว ซึ่งหลังจากล่องแพเสร็จแล้วบริเวณริมแม่น้ำวางยังสามารถนั่งรับประทานอาหารชมวิวเล่นน้ำในแม่น้ำวางกันต่อได้ด้วย จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมงก็จะมาถึงอำเภอแม่วาง เมื่อขับรถมาถึงในบริเวณแม่น้ำแม่วางคุณจะพบร้านอาหาร และซุ้มแพริมน้ำให้บริการอยู่หลายแห่ง โปรแกรมนี้จึงสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งพักผ่อนในซุ้มริมน้ำ หรือจะล่องแพไม้ไผ่เพียงอย่างเดียว หากต้องการล่องแพก็สามารถติดต่อร้านอาหาร หรือผู้ประกอบการได้เลย จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมีรถพาไปส่งยังจุดเริ่มต้นล่องแพ โดยแพสำหรับล่องจะมีให้เลือกทั้งแบบแพไม้ไผ่ และแพยาง ด้วยระดับน้ำที่ตื้นไหลเอื่อยปลอดภัยเส้นทางนี้จึงไม่จำเป็นต้องมีไกด์คอยนำทางค้ำถ่อให้ แต่หากต้องการจะจ้างไกด์พายให้ก็ได้เช่นกัน ใครไม่เคยค้ำถ่อแพช่วงแรกๆ ก็อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกันหน่อย จากนั้นสักพักก็จะบังคับแพให้ไปตามลำน้ำกันได้ไม่ยาก แม้ลำน้ำแม่วางจะเป็นสายน้ำเล็กๆ น้ำไหลเอื่อย แต่ระหว่างทางก็ยังมีช่วงน้ำไหลเชี่ยว และลึกเช่นกัน แต่ความสนุกของหลายคนอยู่ตรงนี้เพราะจะได้ลุยฝ่าแก่งเล่นน้ำกันอย่างหนำใจ กิจกรรมล่องแพแม่วางนี้จะใช้เวลาล่องแพกันประมาณ 1-2 ชั่วโมง จจากนั้นปลายทางจะกลับมายังบริเวณร้านอาหาร ทางผู้ประกอบการจะมีเจ้าหน้าที่มารอรับแพกลับขึ้นฝั่ง จากนั้นหากไม่รับกลับจะเลือกรับประทานอาหารริมน้ำในซุ้มไม้ไผ่กันต่อก็น่าสนใจไม่น้อย สามารถเล่นน้ำ และชมแพไม่ไผ่ล่องมาได้อย่างดี ทางผู้ประกอบการคิดค่าซุ้มเพียง 100 บาทเท่านั้น ส่วนใครอยากไปเที่ยวชมธรรมชาติในอำเภอแม่วางยังมีกิจกรรมนั่งช้างในปางช้างแม่วาง น้ำตกแม่วาง และอุทยานแห่งชาติแม่วาง ให้เที่ยวกันต่ออีกหลายวัน ที่ตั้ง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-ฮอด …

ล่องแพไม้ไผ่ลำน้ำแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ Read More »

Scroll to Top