ย้อนไปในอดีตราว พ.ศ. 2510 คือเมื่อราว 45 ปีที่แล้วเกาะสมุยเพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวต่างประเทศ จากการที่มีนักท่องเที่ย วผจญภัยเดินท างม าพบธรรมชาติบริสุทธิ์ของเกาะแห่งนี้เข้าและนำเอาเรื่องราวต่างๆ ไปเล่าขาน แน่นอนว่าในครั้งนั้นยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติคนใดรู้จักเกาะพะงัน จนเมื่อ พ.ศ. 2515 หลังจากที่เกาะสมุยเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นนักท่องเที่ยวบางส่วนเริ่มสำารวจต่อไปถึงเกาะพะงัน
ที่อยู่ใกล้กันทางด้านทิศเหนือว่ามีอะไรซุกซ่อนอยู่ให้ค้นหาบ้าง โดยนักท่องเที่ยวชาติแรกที่ไปถึง คือ นักท่องท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์และชาวออสเตรเลีย ในยุคต่อๆ มา ซึ่งในครั้งนั้นถือเป็นครั้งแรกที่คนต่างชาติได้ซึมซับรับรู้ความงามของ หาดริ้นว่ามีความสวยงามวิเศษสุดเพียงใด
ที่พักบังกะโลแห่งแรกที่เปิดให้บริการที่หาดริ้นมีขึ้นในราวปี พ.ศ.2523 ชื่อ บูรณ์บังกะโล ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็นชื่อ ริ้นบีช บังกะโล หลังจากนั้นกิจการที่พักบังกะโลก็เริ่มขยายตัวขึ้นตามปริมาณนักท่องเที่ยวที่เริ่มรู้จักหาดริ้นมากขึ้น มีการจัดงานปาร์ตี้เล็กๆขึ้นตามบังกะโลต่างๆนักท่องเที่ยวต่างเฮฮาสนุกสนานกับการดื่มกินเคล้าบรรยากาศเสียงเพลง ชวนกันเต้นรำกันตามชายหาดอย่างเพลินใจ บรรยากาศชวนฝันเช่นนี้เองที่มีคนนำาเอาเรื่องราวความประทับใจจากการมาใช้ชีวิตอิสระเสรีท่ามกลางธรรมชาติพิสุทธิ์ โดยเฉพาะในคืนเดือนเพ็ญเหนือหาดทรายของหาดริ้นไป เขียนเป็นสารคดีและเล่าขานกันต่อๆ ไปว่ามีความงามกว่าที่อื่นใด หาดริ้นจึงเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงขจรขจายมากยิ่งขึ้น
สาเหตุที่หาดริ้น เป็นจุดชมพระจันทร์คืนวันเพ็ญได้ดีกว่าหาดอื่นใดบนเกาะพะงัน เนื่องจากตามสภาพภูมิศาสตร์ของหาดริ้นที่มีความยาวของหาดทรายราว 700 เมตร จะเป็นหาดเปิดหันหน้า ไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นทิศที่ดวงจันทร์ขึ้นในยามค่ำคืนโดยเฉพาะคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ พระจันทร์จะโผล่พ้นเส้นขอบฟ้าเหนือท้องทะเลสาดส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับสะท้อนกับเกลียวคลื่นที่โถมถาทักทายกับชายหาดเป็นคืนที่โรแมนติกที่สุดก็ว่าได้
ค่ำคืนเช่นนี้เองที่ผู้คนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างพากันหลั่งไหลมารวมกันที่หาดริ้น ร้องรำทำาเพลงเต้นรำกันอย่างสนุกสนานท่ามกลาบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์เป็นโลกแห่งความอิสระเสรีที่ทุกคนใฝ่ฝันดังนั้นตั้งแต่หัวค่ำผู้คนก็จะค่อยๆ มารวมตัวกันตามชายหาดเสียงเพลงเร้าใจเริ่มบรรเลงจากหัวหาดจรดท้ายหาดไม่ต่ำากว่า 10 รีสอร์ทที่ต่างคนต่างจัดงานของตัวให้สนุกสนานที่สุดมีทั้งการแสดงโชว์กระบองไฟ และระบำแบบโพลิเนเชี่ยน การแข่งขันกันพ่นไฟด้วยการอมน้ำมันในปากแล้วเป่าใส่คบไฟที่ถือในมือให้เปลวไฟพวยพุ่งไปในอากาศ ใครทำได้ดีกว่าก็จะได้รับเสียงตบมือให้ดังสนั่น มีการจัดเวทีให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเต้นรำากันอย่างสนุกสนานบ้างก็เดินเที่ยวจากหัวหาดยันท้ายหาดเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ เต้นรำกันไปทั่วจนแน่นขนัดทั้งหาด กล่าวกันว่าตามสถิติของคืนฟูลมูนจะมีนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันเฉลี่ยคราวละไม่น้อยกว่า 30,000 คนในแต่ละเดือน หรือหากเป็นช่วงคริสมาสต์ ปีใหม่ วาเลนไทน์อาจมีนักท่องเที่ยวถึง 100,000 คน สร้างกระแสเงินตราสะพัดนับล้านๆ บาท และที่กำลังเป็นสิ่งที่นิยมกันมากในขณะนี้คือแฟชั่นเสื้อผ้าหลากสีสันและศิลปะการระบายสีตามร่างกายด้วยสีสะท้อนแสงผ่านฝีมือศิลปินที่ให้บริการอยู่ทั่วไปตามชายหาด จนกลายเป็นแบบฉบับการแต่งกายของคนที่มาร่วมงานฟูลมูนปาร์ตี้ ก่อนออกไปเต้นรำอวดลวดลายบนชายหาดหยอกล้อพระจันทร์คืนวันเพ็ญกันอย่างสนุกสนาน
พระจันทร์วันเพ็ญลอยเด่นสุกสกาวเหนือ หาดริ้นเบื้องบนฟากฟ้าจากทิศตะวันออกยามเมื่อพระจันทร์ขึ้นช่วงหัวค่ำ จนลอยคล้อยลับไปทางทิศตะวันตกก่อนฟ้าสางซึ่งหมายถึงว่าค่ำคืนแห่งความสุขสนุกสนานกำลังลาจากไปให้รอคอยอีกถึง 1 เดือนเต็มกว่าคืนพิเศษเช่นนี้จะหวนคืนกลับมาอีกครั้ง เหลือไว้แต่เพียงวินาทีแห่งความสุขความประทับใจที่เก็บไว้ในความทรงจำของผู้มาเยือนตลอดกาลและทำให้หลายคนที่ยังหลงใหลในเสน่ห์ความงามของคืนเดือนเพ็ญบนหาดริ้นต้องกลับมาเยือนที่นี่อีก ครั้งแล้วครั้งเล่า
นอกจากหาดริ้น ซึ่งที่จริงคือ หาดริ้นนอก ที่โด่งดังในเรื่องฟูลมูนปาร์ตี้แล้ว บริเวณใกล้เคียงกันแต่อยู่คนละฟากยังมีหาดริ้นในความยาว 1,400 เมตร และหาดสีกันตัง ความยาว 500เมตร เป็นหาดทรายสวยงามที่มีรีสอร์ทน่าพักอยู่หลายห่างชายหาดแถบนี้จะเป็นหาดฝั่งตะวันตกที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ดี ส่วนทางฝั่งตะวันออกต่อจากหาดริ้นนอกขึ้นไปทางด้านเหนือ เป็นหาดคนที หาดยวนและหาดเทียนตะวันออก รวมทั้งหาดเล็กๆเช่นหาดหวายน้ำ หาดยาวตะวันออก เป็นต้น ซึ่งการเดินทางอาจไม่สะดวกนักต้องเดินทางต่อจากหาดริ้นนอกด้วยเรือหรือไม่ก็ต้องมาทางบกด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อข้ามภูเขามาจากทางบ้านค่าย หากแต่มีรีสอร์ทที่น่าพักอยู่หลายแห่งบรรยากาศสงบเงียบและเป็นธรรมชาติยิ่งนัก