ตลาดโบราณ

ตลาดน้ำอื่นๆ ที่ใช้คำว่า ตลาดร้อยปี อันแสดงถึงความเก๋าที่ตั้งชุมชนมานานนั้น อันที่จริงตลาดโบราณนครเนื่องเขตก็ถือเป็นตลาดร้อยกว่าปีได้เหมือนกัน เพราะตลาดนี้มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ชุมชนก็ยังอนุรักษ์ความเป็นเรือนไม้เก่าแก่ ส่วนชุมชนนั้นก็คล้ายกับตลาดคลองสวนตรงที่มีความหลากหลายทั้งชาวไทย จีน อาศัยอยู่รวมกัน อีกทั้งยังผูกสัมพันธ์กันด้วยทางเดินเท้าและสะพานเชื่อมกัน ทำให้เดินได้อย่างเพลิดเพลิน และระยะทางไม่ไกลเกินเหนื่อย เมื่อเดินขึ้นไปบนกลางสะพานมองวิวคลองก็ได้เห็นความงามของสายน้ำและชุมชนที่เรียงรายสองฟากฝั่ง อันแสดงถึงวิถีไทยได้อย่างน่าชม ย้อนไปปในอดีตตลาดนี้เดิมเรียกว่าสี่แยกท่าไข่ เพราะมีคลองท่าไข่จากแปดริ้วแยกเข้ามาทางทุ่งนา ต่อมาทางราชการขุดคลองเนื่องเขตต่อมาจากคลองแสนแสบไปบรรจบกับคลองท่าไข่ บริเวณตลาดมีคลองขวางตัดกับคลองเนื่องเขตจึงเกิดเป็นสี่แยก ทำเลแบบนี้จึงกลายเป็นศูนย์กลางในการค้าขายที่คึกคักมาก ภายหลังก็ซบเซาไปตามเวลา ตลาดแห่งนี้ถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้ และได้รับความนิยมมากอีกหนึ่งตลาดยอดนิยมในจังหวัดฉะเชิงเทราเลยทีเดียว จุดเด่นของตลาดนี้นอกจากจะวิวสวย และคงสภาพเดิมๆ แล้ว ร้านค้าของที่นี่ยังเด่นด้วยอาหารพื้นเมือง ทั้งของคาวและของหวาน รวมถึงผลไม้…

ตลาดโบราณ เสน่ห์วันวานแห่งบางพลี คลองใหญ่ใกล้กรุงแห่งนี้มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต เพราะเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าจากแผ่นดินสู่ทะเล ในอดีตชุมชนสองฝั่งคลองสำโรงจึงเจริญรุ่งเรืองมาก มีการสร้งบ้านเรือนจนเกิดเป็นชุมชนขนาดใหญ่สืบทอดกันมาจวบจนปัจจุบัน ซึ่งในวันนี้ก็ยังสามารถไปสัมผัสบรรยากาศบ้านเรือนเก่าแก่ และตลาดโบราณที่ยังเสมือนมีลมหายใจกันได้ที่ ตลาดน้ำบางพลี ก่อนไปเที่ยวชมตลาดน้ำบางพลีลองมาทำความรู้จักกับประวัติของคลองสำโรงกันก่อน คลองสำโรงว่ากันว่าถูกขุดเป็นคลองตั้งแต่สมัยชอมยังเรืองอำนาจระหว่าง พ.ศ. 978-1700 จากนั้นมารุ่งเรืองในสมัยรัชกาลที่ 4 เพราะเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าจากฝั่งตะวันออกสู่ทะเลอ่าวไทย ปัจจุบันคลองตั้งอยู่ในเขตตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยคลองจะไหลทอดยาวผ่าน 4 อำเภอของสมุทรปราการ และจะไปบรรจบกับแม่น้ำบางปะกง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมระยะทางยาวประมาณ 55 กิโลเมตร แม้วันนี้คลองสำโรงจะไม่รุ่งเรืองเที่ยบเท่ากับอดีต แต่ก็ยังสามารถมาสัมผัสร่องรอยของความรุ่งเรืองในอดีตได้จากการเที่ยวชมตลาดน้ำบางพลี…

เที่ยวชมวัด และอุทยานมัจฉา นอกจากโปรแกรทเที่ยวชมความคลาสสิกของตลาดโบราณริมคลองประเวศบุรีรมย์แล้ว ตลอดสองฝั่งคลองของเขตลาดกระบังแห่งนี้ยังมีวัดวาอารามอันสวยงามให้มาเที่ยวในรูปแบบไหว้พระทำบุญกันอีกหลายแห่ง ที่มีเหล่ามัจฉาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โปรแกรมนี้จึงไม่น่าเบื่อเหมาะทั้งผู้ใหญ่และเด็กน้อย คลองประเวศบุรีรมย์ เป็นลำคลองที่มีความยาวที่สุดของเขตลาดกระบัง โดยแบ่งออกเป็นคลองหนึ่ง สอง สาม และสี่ คลองประเวศบุรีรมย์จึงเป็นลำคลองที่มีความสำคัญมากอีกแห่งหนึ่งของคนกรุงเทพ และด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้วันนี้คลองประเวศบุรีรมย์จึงยังคงความใสสะอาดสวยงามเหมือนดั่งวันวาน เหมาะสำหรับมาเดินเที่ยวชมวิว ไหว้พระ และให้อาหารเหล่าปลาที่มีให้ชมอยู่มากมายในบริเวณท่าน้ำของวัด โดยตลอดริมคลองประเวศมีวัดเด่นดังให้เที่ยวชมกันหลายแห่ง เช่นวัดลานบุญ วัดลาดกระบัง วัดสังฆราชา วัดสุทธาโถชน์ ฯลฯ สำหรับวัดน่าชมที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ วัดลานบุญ ตั้งอยู่ริมคลองประเวศทางทิศเหนือของเขตลาดกระบัง ชาวบ้านนิยมเรียกว่าวัดคลองหนึ่งเพราะที่ตั้งของวัดอยู่ริมคลองหนึ่ง ลำคลองที่แยกตัวมาจากคลองประเวศบุรีรมย์ โดยจุดเด่นของวัดลานบุญคือเป็นอุทยานมัจฉา…

ย้อนวันวานเที่ยว 2 ตลาดโบราณร้อยปี คลองประเวศบุรีรมย์นับเป็นลำคลองใหญ่ที่มีความยาวที่สุดของเขตลาดกระบัง โดยมีความยาวถึง 46 กิโลเมตร เชื่อมต่อมาจากคลองพระโขนงยาวมาถึงแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยความเป็นลำคลองสายใหญ่ทอดยาวตลอดสองฝั่งคลองจึงเป็นที่ตั้งของชุมชนริมน้ำเก่าแก่อยู่หลายแห่ง รวมถึงตลาดโบราณอายุร้อยกว่าปีก็มีให้เที่ยวชมสัมผัสบรรยากาศวันวานกันอยู่ถึง 2 แห่ง คือ คลาดหัวตะเข้ และตลาดหลวงแพ่ง สองตลาดโบราณที่ยังคงมีลมหยใจจวบจนปัจจุบัน คลองประเวศบุรีรมย์ตามประวัติกล่าวไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดขึ้นในปี พ.ศ. 2421 โดยเป็นคลองที่ขุดขึ้นต่อจากคลองพระโขนงไปเชื่อมกับคลองด่าน จังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อมาที่ดินบริเวณริมคลองประเวศบุรีรมย์ไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงมีการขุดแยกออกมาอีก 4 คลอง คือ…