สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน

เข้าสู่ฤดูฝนกันอย่างเต็มตัวแล้วสำหรับประเทศไทยของเรา ไม่ว่าจะเดินทางท่องเที่ยวที่ไหนในช่วงนี้ก็จะมีแต่บรรยากาศของความเขียวชอุ่มสดชื่นเย็นสบาย แถมยังเที่ยวสบายไม่ต้องไปเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวคนอื่นแบบช่วงฤดูหนาวอีกด้วย แน่นอนว่าหนึ่งในจุดหมายของนักเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนแบบนี้คงจะหนีไม่พ้นน้ำตกสวยๆ ที่กระจายอยู่ทั่วผืนป่าของเมืองไทย ซึ่งจะมีปริมาณน้ำและความงดงามมากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคมเรื่อยไปจนถึงเดือนตุลาคม ความงดงามของน้ำตกห้วยหลวง เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี น้ำตกห้วยหลวง หรือน้ำตกบักเตว ในอุทยานแห่งชาติภูจองขนายอย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยความสูงเกือบครึ่งร้อยเมตร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าน้ำตกห้วยหลวงนั้นมีความยิ่งใหญ่อลังการมากแค่ไหน พลังของน้ำที่ไหลลงมาจากด้านบนลงสู่ด้านล่างมากจนเกิดละอองน้ำกระจายไปทั่วบริเวณรอบน้ำตกที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงจะต้องเดินลงบันไดกว่า 272 ขั้นจากลานจอดรถ เพื่อไปยังน้ำตกห้วยหลวงที่อยู่ในหุบเขาด้านล่าง ขาลงก็สบายๆ ครับ ส่วนขาขึ้นนี่เล่นเอาขาสั่นเลย แต่ยังไงก็คุ้มค่าที่จะลงไปชมความงดงามของน้ำตกห้วยหลวงแน่นอนครับ บริเวณด้านล่างมีหาดทรายเล็กๆ อยู่ริมน้ำให้นักท่องเทียวได้เล่นน้ำกันอย่างสบายใจ (แต่อย่าไปนอกเขตที่เจ้าหน้าที่กำหนดนะครับ น้ำลึกและอันตรายมาก) และในน้ำยังมีฝูงปลาตัวน้อยๆ ว่ายเวียนไปมาอยู่เป็นจำนวนมาก บ้างก็มาตอดขากับแบบสปาปลาธรรมชาติกันเลย รอบๆ หาดทรายมีผีเสื้อตัวน้อยๆ บินไปบินมาสร้างสีสันให้น้ำตกห้วยหลวงงดงามมากขึ้นไปอีก สำหรับใครทีเดินลงไม่ไหวจริงๆ ใกล้ๆ กับลานจอดรถก็ยังมีจุดชมวิวน้ำตกห้วยหลวงในมุมสูงให้ลมกนได้แบบไม่ต้องเสียเหงื่อเลย การเดินทางสู่น้ำตกห้วยหลวงในอุทยานแห่งชาติภูจองขนายอย จากตัวเมืองอุบลราชธานี ใช้เส้นทางมุ่งหน้าอภเภอเดชอุดม ต่อจากนั้นมุ่งหน้าไปที่อำเภอนาจะหลวยเพื่อเข้าสู่ตัวอุทยานฯ นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี โทรศัพท์ 045-243-770

ไต่ภูไปดูมวลมหา ดอกไม้ ด้วยระดับความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล คือจุดหมายของเส้นทางเดินป่า เพื่อไปชมทุ่งดอกหงอนนาคบนลานสนภูสอยดาว ทว่าความสูงนี้ต้องเดินเท้ารวมกว่า 6.5 กิโลเมตร ความสูงของภูมิประเทศที่ต้องไต่ขึ้นเรื่อยๆ นั้นไม่ง่ายนักสำหรับมือใหม่ และไม่สบายซะทีเดียวสำหรับมือเก๋า แต่เป็นความพอเหมาะพอเจาะที่ทำให้ทุกหัวใจได้สนุกและตื่นเต้นที่จะได้พบทุ่งกว้างที่อวดโฉมด้วยดอกไม้สีม่วงและสีเหลืองสะพรั่งไปทั่วลานสน จุดเด่นของลานดอกไม่บนภูสอยดาวคือ ทุ่งดกหงอนนาคขนาดใหญ่ ที่จะบานสะพรั่งให้ชมมากที่สุดระหว่างเดือน สิงหาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม หากนอกเหนือจากช่วงเวลานี้จะยังพอมีหเห็นบ้างแต่ไม่มากนัก ความมีเสน่ห์ของทุ่งดอกหงอนนาคที่นี่คือได้สัมผัสกับสภาพอากาศที่แปรปรวนง่าย ซึ่งอาจจะพบว่ามีทั้งฝน หมอก และแสงอาทิตย์อบอุ่นได้ในวันเดียวกัน ลักษณะเส้นทางเดินป่าพิชิตลายสนภูสอยดาว เป็นเส้นทางเดินป่าระยะไกล ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นอยู่ที่น้ำตกภูสอยดาว เส้นทางจัดอยู่ในระดับยาก ช่วงแรกนั้นจะผ่านป่าดงดิบเลียบลำห้วย หลังจากนั้นจะเป็นเนินชันขึ้นเรื่อยๆ สลับกับพื้นที่ราบเป็นระยะ ผ่านสภาพป่าที่หลากหลาย ช่วงสุดท้ายจะเป็นเขาสูงชันเรียกว่า “เนินมรณะ” เมื่อผ่านเนินนี้ไปก็จะถึงลานสน ที่ความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง 0 เมตร น้ำตกภูสอยดาว จุดเริ่มต้นเดินเท้า ผ่อนคลายสบายใจกับการชมวิวน้ำตกสวยๆ เป็นการวอร์มร่างกายก่อนจะเริ่มเดินขึ้นภู 1,600 เมตร เนินส่งญาติ …

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุตรดิตถ์ Read More »

ชมน้ำตกที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุดของอีสานใต้ ภูจองนายอย เป็นอุทยานแห่งชาติ ของจังหวัดอุบลราชธานีที่มีแนวเขตผืนป่าติดต่อกันถึง 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และกัมพูชา ภายในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย แห่งอีสานใต้แห่งนี้จึงอุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่หลายแห่ง แต่ที่ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชมที่สุดก็คือ น้ำตกห้วยหลวง เพราะนี่คือน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ และสูงที่สุดของดินแดนอีสานใต้แห่งนี้ น้ำตกห้วยหลวง หรือที่เรียกอีกชื่อว่า น้ำตกบัวเตว ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ทางทิศใต้ประมาณ 3.5 กิโลเมตร สามารถขับรถไปเที่ยวได้อย่างสะดวกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีต้นกำเนิดมาจากลำห้วยหลวง จุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้ก็คือ เป็นน้ำตกที่มีสายน้ำไหลตกลงจากหน้าผาสูง 45 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง และมีหาดทรายสีขาวเหมือนทะเลสามารถเล่นน้ำได้อย่างสนุก โดยจากศาลาชมวิวด้านบนจะเห็นน้ำตกไหลทิ้งตัวลงมาอย่างสวยงามตระการตา ยิ่งในช่วงฤดูฝนน้ำเยอะสายน้ำจะทวีความรุนแรงไหลลงมาเป็นม่านน้ำสีขาวขนาดใหญ่ และส่งเสียงดังกังวานทั่วป่า จากนั้นหากอยากสัมผัสน้ำตกกันอย่างใกล้ชิดก็สามารถเดินตามทางเดินไปสู่เบื้องล่างได้เช่นกัน และหากเดินตามลำธารลงไปอีกหน่อยจะพบน้ำตกเล็กๆ อีกแห่งหนึ่งคือ น้ำตกประโอนละออ ชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกจุ๋มจิ๋ม สายน้ำไหลผ่านหน้าผาตัดเป็นม่านสวยงามไม่แพ้กัน จากนั้นช่วงเย็นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ พลาญหินกงเกวียน ส่วนรุ่งเช้าไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ ภูหินด่าง ซึ่งควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางไว้ตั้งแต่ช่วงบ่ายเพราะอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย  51 กิโลเมตร ลักษณะเป็นลานหินทรายถูกกัดเซาะจนเป็นตะปุ่มตะป่ำคล้ายกับลานหินปุ่มที่ภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก แต่หินทรายที่นี่จะเป็นรอยด่างจึงถูกเรียกว่าภูหินด่าง โดยยามเช้าที่นี่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกได้ไกลถึงฝั่งลาว ส่วนใครมาเยือนช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ก็ต้องไม่พลาดไปปชมกุ้งเดินขบวนที่ แก่งลำดวน …

น้ำตกห้วยหลวง อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อุบลราชธานี Read More »

อัศจรรย์ม่านน้ำไหลผ่านรู ผาแต้ม เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่มีจุดเด่นทางธรรมชาติหลายแห่ง และค่อนข้างอยู่ใกล้กัน จึงขับรถเที่ยวได้ไม่ยาก เป็นที่รู้จักกันดีคือ ผาแต้ม และผาชนะใด หน้าผาริมฝั่งโขงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นแห่งแรกของประเทศไทย โดยหลังจากชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นกันแล้ว โปรแกรมต่อไปของการเที่ยวชมผาแต้มก็คือ การเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกลงรู หรือน้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกอัศจรรย์ที่มีสายน้ำไหลลงมาจากรูสมชื่อ น้ำตกแห่งนี้สวยงามสุดคือช่วงฤดูฝน โดยสายน้ำจะไหลลงมาเป็นม่านน้ำสายใหญ่สวยงามที่สุด น้ำตกแสงจันทร์ นับว่าเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีต้นกำเนิดมาจากลำห้วยท่าล้ง ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง ลักษณะพิเศษของน้ำตกนี้คือ สายน้ำจะไหลจาการหินตกลงในรูของเพิงถ้ำที่เกิดจากการยุบตัวของหิน น้ำตกจึงมีชื่อเรียกตามลักษณะตาเห็นกันว่า น้ำตกลงรู โดยน้ำตกลงรูจะมีน้ำไหลลงมามากที่สุดในช่วงหน้าฝน และว่ากันว่าในช่วงวันพระจันทร์เต็มดวงบริเวณหน้าน้ำตกแห่งนี้จะมีแสงเดือนสาดเข้าหาน้ำตกเป็นประกายสวยงามมาก น้ำตกลงรูจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า น้ำตกแสงจันทร์ นั่นเอง จากน้ำตกลงรูยังสามารถไปเที่ยวชมกลุ่มน้ำตกสร้อยสวรรค์ได้ด้วย อยู่ห่างจากน้ำตกแสงจันทร์ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในน้ำตกสวย และสูงใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เกิดจากสายน้ำสองลำห้วยคือ ห้วยสะหนม และห้วยสร้อยไหลมารวมกันตรงแนวหน้าผาหินสูงใหญ่ ทำให้มองเห็นสายน้ำตกคล้ายสายสร้อยจนเรียกกันต่อมาว่าน้ำตกสร้อยสวรรค์ หรืออยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปชมเสาหินรูปร่างแปลกตาก็ต้องไปเที่ยวชมเสาเฉลียงคู่ เป็นเสาหินทรายขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายเห็ด ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเกิดจากการกัดเซาะของสายลม และแสงแดดมาหลายร้อยปี  ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี การเดินทาง จากอำเภอเมืองอุบลราชธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2222 ระยะทาง 80 กิโลเมตร …

น้ำตกลงรู อุบลราชธานี Read More »

น้ำตกสวยในเส้นทางเที่ยวภูผาเทิบ อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ นับเป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่ใกล้ตัวเมืองมุกดาหารมากที่สุด ระยะทางห่างกันเพียง 14 กิโลเมตร เท่านั้น แถมภายในอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ยังเที่ยวชมธรรมชาติอันงดงามต่างๆ ได้อย่างสะดวก ซึ่งมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้อย่างดี ระหว่างทางมีประติมากรรมหินอันสวยงาม และทุ่งดอกไม้ป่าละลานตาให้ชมหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เหมาะสำหรับเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่หากมาชมในช่วงฤดูฝนบนเส้นทางนี้มีน้ำตกถ้ำพระเป็นไฮไลท์เด่นที่ไม่ควรพลาดชมที่สุด น้ำตกถ้ำพระ ตั้งอยู่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 6 กิโลเมตร เริ่มต้นจากกลุ่มหินเทิบ ภูมโน ภูหลังเส ลานมุจลินท์ น้ำตกวังเดือนห้า ผาอูฐ จากนั้นจะพบน้ำตกภูถ้ำพระ เป็นน้ำตกที่มีต้นน้ำมาจากแหล่งน้ำซับในบริเวณอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ที่มีน้ำไหลตลอดปี จากนั้นได้ไหลมารวมกันจนเกิดเป็นน้ำตกถ้ำพระ โดยสาเหตุที่มาของชื่อน้ำตกถ้ำพระก็เพราะน้ำตกได้ไหลลงมาจากหน้าผาบริเวณถ้ำพระ ซึ่งภายในมีพระประธาน พระพุทธรูปไม้ และรูปปั้นสัตว์ต่างๆ จำนวนมากนั่นเอง สำหรับน้ำตกถ้ำพระเหมาะสำหรับมาเที่ยวชมในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เพราะจะได้เห็นสายน้ำไหลลงมาจากหน้าผาได้อย่างชัดเจน หากมาในช่วงฤดูอื่นๆ จะเห็นแต่เพียงน้ำซึมๆ อาบหน้าผาเท่านั้น จากน้ำตกถ้ำพระ เดินต่อไปอีก 700 เมตรจะพบ ผามะนาว จุดท่องเที่ยวแหล่งสุดท้ายของเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้านบนหน้าผาสามารถมองเห็นกลุ่มหินเทิบ และแม่น้ำโขงได้อย่างสวยงาม หลังจากนั้นเดินกลับที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ หากไม่รีบกลับตัวเมืองมุกดาหารช่วงเย็น อยู่รอชมพระอาทิตย์ตกกันที่บริเวณภูผาเทิบบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบช่วงเย็นมองเห็นวิวกลุ่มหินเทอบเป็นเงาดำทมึนสวยงามไปปอีกแบบ ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร การเดินทาง …

น้ำตกถ้ำพระ อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ มุกดาหาร Read More »

สวยทั้งทุ่งดอกไม้ วิวทุ่งนา และภาพเขียนสีโบราณ ภูสระดอกบัว เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีภูสระดอกบัวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันมหัศจรรย์ เพราะสระบัวนี้นอกจากจะตั้งอยู่บนยอดภูสูงแล้ว ยังเป็นบ่อน้ำที่มีน้ำ และดอกบัวให้ชมกันตลอดปีด้วย แต่การเดินทางไปปเที่ยวชมนั้นไม่ง่ายต้องเดินเท้าขึ้นเขาผ่านป่ากันกว่า 5 กิโลเมตร ภูสระดอกบัวจึงเหมาะสำหรับการเที่ยวชมในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีในช่วงฤดูฝนทางอุทยานแห่งชาติภูสระบัว ยังมีเส้นทางภูวัดให้ไปเที่ยวชมธรรมชาติแทน ระหว่างทางบนเส้นทางนี้มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมกันเยอะ เช่น ภาพเขียนสีโบราณ ทุ่งดอกไม้ และวิวทุ่งนาอันเขียวขจี ภูวัด เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสระบัว ประมาณ 500 เมตร เส้นทางเดินนี้ไม่ยากเริ่มต้นจากด้านหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสระบัว โดยระหว่างทางประมาณ 200 เมตร จะผ่านภูผาแต้มเป็นแห่งแรก ภูผาแต้มเป็นแนวหิใต้เชิงผาที่มีภาพเขียนสีโบราณให้ชมทั้งรูปฝ่ามือ รอยขีดเขียนเป็นรูปต่างๆ สันนิษฐานกันว่าเป็นภาพเขียนยุคเดียวกับอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ และอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี จากนั้นเดินทางต่อระหว่างทางจะพบทางแยกไปจุดชมวิวผามะเกลือ เป็นลานหินโล่งมองเห็นแนวสันเขาทอดตัวยาว ทุ่งนาสีเขียว และอ่างเก็บน้ำเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน จากผามะเกลือเดินย้อนกลับมาทางเดิมไม่ไกลก็จะพบ ภูวัด ลักษณะเป็นลานหินทรายอันกว้างขวางที่มีทุ่งดอกไม้ป่าออกดอกละลานตาอย่างสวยงามในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ของทุกปี หลังเดินชมลานภูวัดเสร็จก็ได้เวลาเดินกลับที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว หากนำข้าวกล่องติดตัวมาด้วยจะหม่ำมื้อกลางวันบริเวณภูวัดก่อนก็ได้ขากลับจะได้มีแรงเดินสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว สำหรับเส้นทางไปเที่ยวชมภูสระดอกบัวจากที่ทำการอุทยานฯ มีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ แต่จะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเพราะเส้นทางเดินไม่ชัดเจนอาจเดินหลงทางได้ ภูสระดอกบัวเป็นภูเขาสูงประมาณ 423 เมตร จากระดับน้ำทะเล …

ภูสระดอกบัว ภูวัด มุกดาหาร Read More »

จุดชมวิวเทือกเขาภูพาน ใกล้ประติมากรรมหินของมนุษย์โบราณ แม้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทจะอยู่ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีกว่าร้อยกิโลเมตร แต่สิ่งที่ทำให้เหล่านักเดินทางยอมมาเที่ยวกันที่นี่ก็คือ ประติมากรรมหินธรรมชาติที่มีเรื่องราวของประวัติศาสตร์ และนิทานพื้นบ้านร้อยเรียงประกอบการเดินชมกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งระหว่างทางยังมีผาเสด็จให้หยุดพักชมวิวอันสวยงามด้วย บนเส้นทางนี้จึงได้ทั้งความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ และความเพลิดเพลินในในสถานที่แห่งเดียวกัน ภูพระบาท เป็นภูเขาที่มีลานหิน และโขดหินทรายถูกกัดกร่อนจนมีรูปร่างแปลกตา แต่เดิมชื่อ ภูกูเวียง ตั้งอยู่ในแนวเทือกเขาภูพาน ซึ่งย้อนกลับไปประมาณ 2,000-3,000 ปีก่อน บริเวณนี้เคยเป็นถิ่นอาศัยของมนุษย์ ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่แปลกประหลาด ชุมชนนี้จึงเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีการใช้ลานหิน และเพิงหินเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม ในยุคนั้นเป็นช่วงของการนับถือศาสนาฮินดู และศาสนาพุทธกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ ปัจจะบันจึงได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ และประกาศขึ้นทะเลียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ. 2524 มีพื้นที่รวมกว่า 3,430 ไร่ สำหรับเส้นทางเดินเท้าเที่ยวชมประติมากรรมหินต่างๆ โดยเส้นทางเดินชมจะเป็นวงกลมจะผ่านเพิงหิน 23 แห่ง แบ่งเป็น 9 กลุ่ม และมีภาพเขียนสีอีกกว่า 45 แห่ง ตลอดทางมีสิ่งที่น่าสนใจให้แวะชมหลายแห่ง เช่น หอนางอุสา วัดพ่อตา ถ้ำพระ กู่นางอุสา บ่อน้ำนางอุสา เพิงหินนกกระทา ช้างเขานิพพาน จากนั้นจะถึงจุดชมวิวผาเสด็จ เป็นจุดท่องเที่ยวที่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 600 …

ผาเสด็จ อุดรธานี Read More »

เที่ยวน้ำตกยูงทอง ต่อด้วยชมวิวผาแดง อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม ตั้งอยู่ไกลจากตัวเมืองอุดร ถึงร้อยกว่ากิโลเมตร แต่นักนิยมไพรชอบมาพักผ่อนกันเป็นประจำเพราะที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของอุดรธานี ซึ่งเป็นแนวเขตติดต่อกับจังหวัดเลยและหนองคาย ภายในอุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม จึงมีน้ำตก และจุดชมวิวให้เที่ยวชมพร้อมกับศึกษาธรรมชาติ โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการมาเยือนก็คือช่วงฤดูฝน เพราะน้ำเยอะเห็นป่าเขียวไม่แล้งจนเกินไป สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม คือ น้ำตกยูงทอง และจุดชมวิวผาแดง โดยทั้งสองแห่งสามารถจัดเที่ยวคู่กันได้เพราะตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกัน มีระยะทางประมาณ 1,500 เมตร เริ่มต้นจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเดินชมป่าไปประมาณ 500 เมตร ก็จะพบ น้ำตกยูงทอง เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนสันเขาภูพาน และภูย่าอู สูง 3 ชั้น โดยชั้นที่ 3 สวยที่สุดสูงประมาณ 17 เมตร สายน้ำไหลไหลผ่านชั้นหินผาสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงาม น้ำตกแห่งนี้เหมาะสำหรับมาชมในช่วงฟดูฝน เพราะฤดูแล้งไม่มีน้ำเจอแต่ชั้นหิน จากนั้นเดินไปเที่ยวชมวิวบน ผาแดง อยู่ห่างจากน้ำตกยูงทองประมาณ 530 เมตร จากน้ำตกยูงทองจะมีเส้นทางเดินตัดมาออกที่ จุดชมวิวผาแดง เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของอุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ผาแดงเป็นหน้าผาสูงชัน มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ทั้งท้องทุ่งนา และขุนเขาสูงรอบด้าน ช่วงฤดูร้อนจะเห็นแต่นาแล้งๆ …

อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม อุดรธานี Read More »

ชมวิวแม่น้ำโขง และทิวทัศน์สองฝั่งไทยลาว หนองคายนั้นมีพื้นที่ของจังหวัดทอดยาวคดเคี้ยวตามแม่น้ำโขง ซึ่งบริเวณพื้นที่เลียบโขงนี้เองมีทางหลวงหมายเลข 211 ขนานไปกับแม่น้ำโขงตลอดแนว วิธีที่จะเที่ยวได้สะดวกสุดก็คือการขับรถเที่ยวชม ตลอดทางนอกจากวิวแม่น้ำโขงแสนสวยแล้ว ถนนสายนี้ก็ยังมีสถานที่เที่ยวเด่นๆ ของหนองคายให้แวะชมกันหลายแห่ง ที่ไม่ควรพลาดที่สุดก็คือ วัดผาตากเสื้อ วัดบนเนินเขาสูงที่คุณสามารถชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำโขงไหลโค้งขนานไปกับแผ่นดินไทย และลาวได้อย่างสวยงามที่สุด แม้วัดจะตั้งอยู่บนเขาสูงแต่ถนนหนทางสู่วัดก็ไม่ได้แย่จนเกินไป มีช่วงท้ายๆ ก่อนถึงวัดเท่านั้นที่เป็นทางดินลูกรัง รถเก๋งก็สามารถขับรถมาเที่ยวได้ไม่ยาก เมื่อถึงลานจอดรถเดินขึ้นไปไม่ไกลก็จะพบ พระอุโบสถวัดผาตากเสื้อ แวะชมกันก่อนก็ได้เป็นพระอุโบสถแบบจตุรมุขมีทางขึ้นลง 3 ด้าน ภายในขนาดไม่กว้างมากบนเพดานมีภาพจิตรกรรมเรื่องราวพุทธประวัติให้ชม ส่วนองค์พระปรานเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ โดยมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ตั้งอยู่ด้านข้างอีกหลายองค์ จากนั้นเดินไปทางศาลาการเปรียญด้านหลังอาคารหลังนี้จะเป็นหน้าผา และยังเป็นจุดชมวิวอันสวยงามขึ้นชื่อของวัด จากจุดชมวิวแห่งนี้มองออกไปจะเห็นแม่น้ำโขงช่วงที่โค้งมาจากทอศเหนือสู่ทิศใต้ โดยทางฝั่งซ้ายมือคืออำเภอสังคมฝั่งไทย ส่วนฝั่งชวามือเป็นแขวงเวียงจันทน์ของประเทศลาว โดยจากประเทศลาวจะเห็นแม่น้ำสายหนึ่งไหลออกมาบรรจบกับแม่น้ำโขงด้วย จุดชมวิวแห่งนี้สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดปี ช่วงแล้งน้ำระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะลดลงเยอะจนเกิดเป็นดอน หรือสันทรายกลางแม่น้ำหลายแห่ง ส่วนฤดูฝนน้ำเยอะไม่เห็นดอนแต่ได้เห็นแม่น้ำโขงน้ำเต็มตลิ่ง สายหมอก และผืนป่าสีเขียวแทน ขากลับออกมาสู่ทางหลวงหมายเลข 211 สามารถแวะเที่ยวน้ำตกธารทองได้ด้วย ลักษณะเป็นสายน้ำไหลไปตามลานหินคล้ายแก่งระยะทางประมาณ 30 เมตร ตลอดเส้นทางมีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำอย่างดี เหมาะมาเที่ยวชมที่สุดก็คือฤดูฝน เพราะจะมีน้ำให้เล่นกันเยอะ มาช่วงแล้งน้ำหมดเหลือแต่แก่งหินแห้งๆ จากนั้นขากลับสู่ตัวเมืองหนองคายก็ยังมีวัดดังของหนองคายให้แวะอีก 2 แห่ง คือ วัดหินหมากแป้ง และวัดศรีชมพู …

วัดผาตากเสื้อ หนองคาย Read More »

มหัศจรรย์สโตนเฮนจ์เมืองไทย กลางทุ่งหญ้าเขียวขจี ช่วงฤดูฝนนอกจากจะเหมาะสำหรับไปเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวแล้ว ชัยภูมิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งก็คือ มอหินขาว เสาหินมหัศจรรย์บนเนินเขาที่ว่ากันว่ามีลักษณะคล้ายกับสโตนเฮนจ์ของอังกฤษ จนได้ชื่อว่าเป็น สโตนเฮนจ์เมืองไทย เสาหินนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เที่ยวสะดวกเพราะรถเข้าถึง จากนั้นหลังชมมอหินขาวในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา และจุดชมวิวผาเกิ้งให้ไปชมวิวผืนป่าอันสวยงามกันต่อ มอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตตำบลท่าหินโงม ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิประมาณ 40 กิโลเมตร มอหินขาว เป็นชื่อเรียกแท่งหินขนาดใหญ่สีขาวที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีลักษณะคล้ายกับทุ่งหินประหลาดในประเทศอังกฤษที่เรียกกันว่าสโตนเฮนจ์ ซึ่งเป็นเสาหินมหัศจรรย์ไม่ทราบที่มาว่ามาวางเรียงตั้งอยู่ได้อย่างไรจึงได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก โดยเสาหินมหัศจรรย์ของอังกฤษจะมีให้ชมกันถึง 112 แท่ง แต่เสาหินของมอหินขาวนี้จะมีให้ชมด้วยกัน 5 แท่ง โดยการเที่ยวชมมอหินขาวจะแบ่งออกเป็น 3  กลุ่มแต่กลุ่มเสาหินที่โดดเด่นที่สุดคือ กลุ่มเสาหิน 5 แท่ง ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น สโตนเฮนจ์เมืองไทยนั่นเอง หลังจากนั้นต้องไม่พลาดไปเที่ยวชมจุดชมวิวภูแลนคา เป็นเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติใช้เวลาเดินเพียงชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ซึ่งจะผ่านจุดสนใจต่างๆ หลายแห่ง ได้แก่ ลานหินแตก ผากล้วยไม้ หินปราสาท ซุ้มประตูโขลง ป่าหินงามจันทร์แดง และป่าหินงามหงษ์ฟ้า แล้วค่อยเดินกลับที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูแลนคา หากมีเวลาพักผ่อนอีกวันห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ประมาณ 3 กิโลเมตร คุณจะพบ …

อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ชัยภูมิ Read More »