Tamdoo.com

ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว บันเทิง

เกาะพะงัน

  • Home
  • คลองร้อยสาย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

คลองร้อยสาย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

คลองร้อยสาย คือชื่อเรียกดินแดนเล็กๆ บริเวณปากแม่น้ำตาปี ที่เต็มไปด้วยลำคลอง สายน้อยมากมายเชื่อมต่อกันกินพื้นที่กว่า 6 ตำบล แถมสองฝั่งคลองยังอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นด้วยสวนมะพร้าว และป่าจากที่ขึ้นเรียงรายตลอดแนว อีกทั้งวิถีขีวิตการทำประมงพื้นบ้านของชาวบ้านในแถบนี้ยังมีความน่าสนใจ จึงได้มีการผลักดันพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน การล่องเรือท่องเที่ยวเส้นทาง คลองร้อยสาย มักเริ่มต้นโปรแกรมตั้งแต่เช้า ราว 8-9 โมง พาหนะเป็นเรือหางยาวขนาดบรรทุกประมาณ 6-8 คน พร้อมเทียบท่าริมปม่น้ำตาปี ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ลักษณะจะเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำไหลผ่าน และบางส่วนอยู่ติดกับทะเล ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านยังคงใช้เรือเป็นพาหนะท้องถิ่นในการเดินทางสัญจร อาชีพส่วนใหญ่เป็นการทำประมงพื้นบ้าน…

งามเม็ดทราย นอนอาบแดดชายทะเล หาดยาว หาดสลัด เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

ในบรรดาชายหาดริมฝั่งทะเลตะวันตกของเกาะพะงันทั้งหมด หาดยาวและหาดสลัดถือได้ว่า เป็นสองหาดที่มีเม็ดทรายขาวเนียนนุ่มและสวยงามมากกว่าหาดอื่นใด โดยเฉพาะหาดยาวนั้นเป็นชายหาดที่ยาวขนานไปกับชายฝั่งทะเลตะวันตกของเกาะพะงัน มีความยาวราว 1.5 กิโลเมตร ซึ่งมีรีสอร์ทใหญ่และบังกะโลขนาดเล็กเรียงรายอยู่ตลอดแนวชายหาดที่สามารถวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำาลังกาย เล่นกีฬาชายหาดหรือแม้แต่นอนอาบแดดได้เป็นอย่างดี ส่วนบริเวณด้านนอกของชายหาด ทั้งหมดเริ่มต้นจากหาดเจ้าเภา หาดสนจนถึงหาดยาว หาดสลัดไปจรดแม่หาดนี้จะเป็นแนวปะการังที่ทอดตัวยาวเหยียดติดต่อกันเป็นแนวเหนือใต้ มีจุดที่สามารถดำน้ำดูปะการังได้ดีอยู่หลายจุด ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมร้านดำน้ำและมีบริการพานักท่องเที่ยวออกไปดำน้ำตามแนวปะการังเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้หาดยาวยังเป็นจุดหนึ่งซึ่งสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุด ทุกเย็นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจึงมีนักท่องเที่ยวชอบมาคอยเฝ้าชมพระอาทิตย์ตกอยู่ตามชายหาดอยู่เสมอ ส่วนหาดสลัด เป็นหาดที่อยู่ต่อขึ้นไปทางด้านเหนือของหาดยาวที่มีแนวหาดเทียนตะวันตกกับหาดกรวดเป็นหาดเล็กๆ อยู่ต่อเนื่องกันไปกับหาดยาว โดยมีแหลมตาทองอินคั่นอยู่ระหว่างปลายหาดกรวดกับหาดสลัด ในอดีตเชื่อว่าเป็นที่ซ่องสุมของหมู่โจรสลัดที่เคยออกจี้ปล้นแถบน่านน้ำนี้และใช้อ่าวสลัดเป็นที่พำพำนักและกำบังคลื่นลมมาก่อน หาดสลัดวางตัวเป็นแนวเหนือใต้โค้งรับกับแหลมจั่วที่ยื่นออกไปในทะเลและดูคล้ายหาดครึ่งวงกลมสวยงามมีความยาวราว 1 กิโลเมตร ตลอดแนวหาดจะมีรีสอร์ทตั้งอยู่เรียงรายและเป็นรีสอร์ทที่ ค่อนข้างดีมีคุณภาพ รีสอร์ทแถบนี้เริ่มกิจการมาตั้งแต่ราว 15 ปีที่แล้วโดยรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวสวีเดนก่อน…

ฤดูกาลและการเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะพะงัน

เกาะพะงันมีฤดูกาลต่างๆ เป็นไปตามอิทธิพลของลมมรสุมเป็นสำคัญฤดูร้อนอากาศสดใสเหมาะกับการท่องเที่ยวที่สุดอยู่ระหว่างเดือนมกราคม ถึง พฤษภาคม จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน ซึ่งฤดูนี้จะมีลมพัดยาหรือลมพัทธยาพัดสู่เกาะพะงันอาจมีฝนบ้างเล็กน้อยแต่ก็ยังสามารถท่องเที่ยวได้เพียงแต่ช่วงกลางวันนำ้าทะเลมักจะลงจนเห็นหลังงันหรือหลังนาที่เป็นแนวสันดอนปะการังอยู่นอกฝั่งอยู่ทั่วไปและนำ้าจะขึ้นเต็มฝั่งในช่วงเย็นและกลางคืน หาดที่มีผลกระทบในช่วงนี้ได้แก่ หาดริ้นใน หาดบ้านใต้ บ้านค่าย หาดท้องศาลาและหาดหินกอง อย่างไรก็ดีสำาหรับชาวประมงแล้วในช่วงที่มีลมพัดยาหรือลมพัทธยากลับเป็นฤดูที่ดีในการออกหาปูหาปลาที่มักจะชุกชุมกว่าในฤดูอื่น ส่วนในเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมเป็นช่วงฤดูมรสุมที่มีลมว่าวพัดเข้าสู่เกาะพะงันทำาให้มีฝนตกชุกกว่าช่วงอื่นเดือนที่มีฝนตกหนักที่สุดจะเป็นเดือนพฤศจิกายนและหาดที่หันหน้ารับคลื่นลมจากลมว่าวเต็มที่ก็คือ หาดริ้นนอกหาดธารเสด็จ หาดท้องนายปานใหญ่ หาดท้องนายปานน้อยและหาดขวดฤดูกาลต่างๆ เหล่านี้จึงเป็นตัวกำาหนดเขตพื้นที่การ ท่องเที่ยวบนเกาะพะงันไปโดยปริยาย อย่างไรก็ดีถือว่าเกาะพะงัน ยังมีฤดูท่องเที่ยวได้เกือบตลอดทั้งปี ผิดกับทางฝั่งทะเลอันดามัน เมื่อถึงฤดูมรสุมจะมีฝนตกยาวนานกว่าคือเกือบ 6 เดือนต่อปี การเดินทางสู่เกาะพะงันนั้นสามารถทำาได้ไม่ยาก โดยเฉพาะ จากท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสักซึ่งมีเรือเฟอร์รี่ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ข้ามสู่เกาะพะงันวันละ 5 เที่ยวและออกจากเกาะอีกวันละ 5…

ภูมิศาสตร์ของเกาะพะงัน เพชรเม็ดงามบริสุทธิ์ของอ่าวไทย

ด้วยสภาพที่ตั้งของเกาะพะงันที่เป็นเกาะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในช่องอ่างทอง ทางด้านทิศเหนือของเกาะสมุย มีขนาดเนื้อที่ถึง 122 ตารางกิโลเมตร เป็นรองก็แต่เกาะภูเก็ต เกาะสมุย เกาะช้าง และเกาะตะรุเตาเท่านั้น เกาะพะงันจึงเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีสภาพภูมิศาสตร์อุดมสมบูรณ์ทั้งหาดทรายชายทะเลที่มีอยู่เกือบรอบเกาะโดยมีแนวปะการังอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะเหมาะแก่การดำน้ำชมความงามของโลกใต้สมุทรกับมีสันดอนทรายหรือหลังงันอยู่เป็น ระยะอันเป็นที่มาของชื่อเกาะพะงันในอดีตถัดจากชายหาดขึ้นไปเป็นพื้นที่ราบเชิงเขาที่เหมาะแก่การทำาสวนมะพร้าว สวนผลไม้และสวนยางพาราไปจนจรดแนวเขาที่วางตัวเหนือใต้อยู่เป็นแกนกลางของพื้นที่เกาะแนวเขาเหล่านี้เองเป็นพื้นที่ป่าไม้อุดมสมบูรณ์มาแต่ครั้งโบราณกาลเป็นต้น น้ำลำาธารหลายสายที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนเกาะพะงัน มีน้ำตก ลำาธารอันสวยงามจนเป็นสถานที่ที่พระมหากษัตริย์หลายพระองค์ทรงเคยเสด็จประพาสมาถึงที่นี่โดยเฉพาะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสมาที่เกาะแห่งนี้ถึง 14 ครั้ง นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดโดยเฉพาะกวางป่า มีหลักฐานกล่าวกันว่าเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จะเสด็จเกาะพะงันเป็นครั้งที่ 2 นั้นมีการเตรียมกวางป่าให้พระองค์ท่านทรงปล่อย แต่เมื่อทรงเปลี่ยนแปลงกำหนดการไม่ได้มาเยือน จึงมีการปล่อยกวางเหล่านั้นเข้าป่าไป…

เกาะพะงัน สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ

หลายคนคงจะจดจำภาพของเกาะพะงันว่าเป็นดินแดนของงาน ฟูลมูนปาร์ตี้ที่โด่งดังไปทั่วโลก อันมีจุดกำาเนิดเล็กๆ มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้มีโอกาสมาถึงเกาะพะงันใน วันพระจันทร์เต็มดวงและดื่มด่ำกับธรรมชาติ มีความรู้สึกประทับใจบนผืนทรายของหาดริ้น จึงนำไปเขียนเป็นบทความในหนังสือว่าเป็นที่สุดของชายหาดที่จะดูพระจันทร์เต็มดวงได้สวย งามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จนมีคนอ่านแล้วเคลิบเคลี้มตามมาเที่ยวในวันพระจันทร์เต็มดวงตาม บทความนั้นมากขึ้น จากนั้นจึงเริ่มมีงานปาร์ตี้เกิดขึ้นบนชายหาดท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลที่วิเศษสุด จนเกิดเป็นกระแสการท่องเที่ยวในหมู่ชาวต่างประเทศขึ้นว่าจะต้องมาปาร์ตี้บนหาดทรายของเกาะพะงันในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตนี่เองจึงเป็นจุดกำเนิดของงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่วันนี้มีผู้คนนับหมื่นคนมาร่วมงานสนุกสนานนี้ในทุกวันพระจันทร์เต็มดวงบนเกาะพะงัน หลายคนอาจจะมองภาพของเกาะพะงันในมุมนี้ว่าเป็นเกาะที่มีแต่คนมากินเหล้า เมายา ปาร์ตี้ จนกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ออกไปในทางไม่สู้ดีนัก หากแต่ในความเป็นจริงงานฟูลมูนปาร์ตี้ก็เป็นงานหนึ่งซึ่งสนุกสนาน มีสีสัน มีเสน่ห์เป็นของตัวเองไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน มีหลายแห่งอาจจะเลียนแบบเอาอย่างแต่ก็ไม่อาจมีเสน่ห์ได้อย่างสถานที่แท้จริง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดคือเกาะพะงัน และในภาพรวมของงานฟูลมูนปาร์ตี้ก็เป็นงานที่สนุกสนานสำาหรับคนในวัยสนุกวัยหนุ่มสาวอยากปลดปล่อยความเป็นอิสระเสรีที่ไม่ได้เกินเลยขอบเขตของสังคม หากเราดูแลให้งานฟูลมูนปาร์ตี้ดำาเนินไปตามครรลองของระเบียบและกฎหมายไม่ให้เกิดเรื่องที่มีผลกระทบต่อเกาะพะงันในมุมลบเป็นได้ ฟูลมูนปาร์ตี้เกาะพะงันวันนี้น่าจะเป็นการผสมผสานของหาดทรายขาวของหาดริ้น เสน่ห์ของแสงจันทร์ แฟชั่น ศิลปะ และการดื่มด่ำในดนตรีเสียงเพลงในสไตล์ที่เข้าถึงอารมณ์ของวัยรุ่นจากทั่วโลก อย่างไรก็ดี เกาะพะงันนั้นก็ใช่ว่าจะมีเสน่ห์ที่โด่งดังไปทั่วโลกอยู่แค่งานฟูลมูนปาร์ตี้ดังกล่าว…

เกาะพะงันกับคุณค่า และความหมายของการเสด็จประพาส

ในห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของการเสด็จประพาสไปในสถานที่ต่างๆ ของพระมหากษัตริย์ไทยนั้น พระพุทธเจ้าหลวงหรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 นับทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงโปรด การเสด็จประพาสหัวเมืองต่างๆ ไปและทรงเยี่ยมเยียนราษฎรของพระองค์อยู่เสมอ ถึงขนาดบางครั้งพระองค์ก็เสด็จประพาสไปในที่ต่างๆโดยการเสด็จ ประพาสแต่ละครั้งทรงไม่เปิดเผยพระองค์เองว่า เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทำให้ ทรงได้รับรู้ถึงความทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์และเห็นความเป็นอยู่ ของบ้านเมืองตามชนบทตลอดจนได้สร้างความใกล้ชิดกับราษฎร นับเป็น พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง เกาะพะงัน นับเป็นสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเป็นการส่วนพระองค์และได้เคยเสด็จประพาสมาถึงที่นี่บ่อยครั้งกว่าที่แห่งใดในประเทศไทยถึง 14 ครั้ง ระหว่าง พ.ศ.2431-2452 ซึ่งมีทั้งที่เป็นทางผ่านตามเส้นทางเสด็จสู่แหลมมลายูหรือการเสด็จมณฑล ฝ่ายใต้ เช่นเมืองนครศรีธรรมราช สงขลา เป็นต้น การเสด็จประพาสครั้งแรกนั้น เกิดขึ้นใน…

พงันในอดีตกว่าจะมาเป็นเกาะพะงัน

เกาะพะงัน นับเป็นเกาะขนาดใหญ่เคียงคู่กับเกาะสมุย ตั้งอยู่ใน ทะเลอ่าวไทยบริเวณที่เรียกว่า ช่องอ่างทอง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ในประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ต เกาะสมุย เกาะช้างและเกาะตะรุเตาโดยมีพื้นที่ 122 ตารางกิโลเมตร จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี เชื่อว่าเกาะพะงันนี้ เคยมีผู้คนอาศัยอยู่มานานกว่า 1,300-2,000 ปี โดยคนกลุ่มแรกที่มาถึงเกาะพะงันน่าจะเป็นนักเดินเรือชาวโจฬะหรือชนเผ่าทมิฬ ซึ่งเป็นคนพื้น เมืองในแถบอินเดียตอนใต้ที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 14 ถึงพุทธศตวรรษที่ 18 โดยเฉพาะในรัชสมัยพระเจ้าราชาราชะโจฬะที่ 1 และพระเจ้าราเชนทระโจฬะที่ 1 ที่ได้ทรงแผ่ขยายพระราชอาณาจักรมา ถึงคาบสมุทรมลายู…